วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
แก้ส้นเท้าแตกให้กลับมาเนียนนุ่ม ทำได้ง่ายๆด้วย 7 วิธีที่หลายคนนึกไม่ถึง!
ปัญหาส้นเท้าแตกถ้าใครเป็นจะรู้เลยว่าน่ารำคาญม๊ากกก เพราะเท้าจะแห้งๆ เป็นรอยแตกดูแล้วไม่น่ามองอย่างแรง แถมยังขูดนั่นข่วนนี่ไปหมด
วันนี้เราก็เลยไปหาวิธีแก้ส้นเท้าแตกด้วยของจากธรรมชาติมาฝากกันค่ะ แค่ใช้ของหาง่ายๆ ในครัวเรือนนี่แหละ รับรองแก้ได้!!
1. น้ำผึ้ง เพราะในน้ำผึ้งมีมอยซ์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติ แถมยังมีสารแอนตี้แบคทีเรีย วิธีการใช้ก็แค่เทน้ำผึ้งลงในน้ำอุ่น แล้วแช่เท้าเอาไว้อย่างน้อย 20 นาที ทำก่อนนอนทุกคืนจะเห็นผลเร็วขึ้น
2. น้ำมันมะพร้าว เรียกว่าเป็นน้ำมันเทพที่ควรมีติดบ้านจริงๆ เพราะเต็มไปด้วยวิตามินอีเข้มข้น ที่จะช่วยสมานผิวแตกๆ ให้เรียบเนียนขึ้นได้เร็ว แค่แช่เท้าในน้ำอุ่น จากนั้นนวดต่อด้วยน้ำมันมะพร้าว แล้วใส่ถุงเท้าเข้านอน ก็เนียนนุ่มชุ่มชื้น
3. เชียบัตเตอร์กับน้ำมะนาว เป็นบัตเตอร์เนื้อเข้มข้นเหมือนขี้ผึ้ง ดังนั้นจึงช่วยให้เท้านุ่มสมานผิวให้หายแตกได้ วิธีใช้คือแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวแล้วขัดที่รอยแตกเบาๆ จากนั้นเช็ดเท้าให้แห้งแล้วโปะเชียบัตเตอร์ลงไป และใส่ถุงเท้าเข้านอน
4. กล้วย กล้วยมีเอนไซม์ที่จะช่วยกระตุ้นให้ผลัดเซลล์ผิวใหม่ ดังนั้นลองบดกล้วย 1 ลูก กับน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ แล้วพอกเท้าเอาไว้ 20 นาที โดยใส่ถุงพลาสติกครอบอีกชั้น จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วทาครีมบำรุงให้ชุ่มชื่น
5. เปลือกมะนาวและเกลืดขัดผิว เราต้องขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกให้หมด เพื่อให้ส้นเท้าแตกกลับมาเนียนนุุ่มอีกครั้ง จึงต้องใช้เกลือขัดผิวทาบนเปลือกมะนาว แล้วค่อยๆ ขัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดออก เพราะมะนาวมีกรดธรรมชาติที่จะช่วยผลักเซลล์ผิวได้
6. น้ำมันมะกอก อีกหนึ่งของดีที่ควรมีติดบ้านไว้เลย สำหรับน้ำมันมะกอก ซึ่งนอกจากจะหมักผม หมักผิวให้นุ่มแล้ว เรายังเอาน้ำมันมะกอกมาทาที่ส้นเท้าแตก เพื่อสมานผิวได้อีกด้วย วิธีใช้ก็แค่ทาน้ำมันมะกอกที่เท้าทุกวัน ใส่ถุงเท้าเข้านอน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น
7. เบกกิ้งโซดา ราชาแห่งก้นครัวจริงๆ สำหรับเบกกิ้งโซดา ที่แค่หยิบมาผสมน้ำแล้วขัดเบาๆ ที่เท้า ก็จะช่วยเสกเท้าให้เนียนนุ่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ เคล็ดลับคือหลังจากขัดแล้วให้ทิ้งไว้สัก 5-10 นาที ก่อนล้างออก หลังจากล้างออกแล้วให้ทาครีมบำรุงแแล้วใส่ถุงเท้า รับรองหายแน่
บทความจาก...... ladyissue
ตรงอย่างไม่น่าเชื่อ! โครงจมูกเผยถึงนิสัยที่แท้จริงได้แม่นมากๆ คุณเป็นแบบไหนมาลองดูกัน
ตรงอย่างไม่น่าเชื่อ! โครงจมูกเผยถึงนิสัยที่แท้จริงได้แม่นมากๆ คุณเป็นแบบไหนมาลองดูกัน
เมื่อโครงจมูกบอกนิสัยคุณได้ หนุ่มๆสาวๆมาลองดูกันซิว่า 8 ลักษณะนี้ มันตรงกับคุณจริงหรือไม่
1.The Nubian Nose
คนที่มีโครงจมูกแบบเป็นสันยาวและงุ้มปลาย มักจะเป็นคนที่มีความอยากรู้อยากเห็น เอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น และเป็นที่รัก อีกทั้งเป็นคนที่หาทางแก้ไขปัญหาต่างๆได้ดีอีกด้วย
2.The Greek Nose
โครงจมูกแบบรูปปั้นกรีก จมูกเรียวตรงปลายแหลม คนที่มีโครงจมูกในลักษณะนี้เป็นคนเก็บตัว ไม่ชอบเป็นจุดศูนย์กลาง มักอยู่ในกรอบแบบแผนและมีความจงรักภักดีสูง เป็นเรื่องยากที่จะให้คนที่มีจมูกลักษณะนี้เปิดเผยความรู้สึก
3.The Hooknose
จมูกแบบจะงอยปากนก ลักษณะสันจมูกโค้งงุ้มราวจะงอยปากนก เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และเสียสละ คนประเภทนี้ยึดมั่นในความเชื่อของตนเองและไม่กลัวที่จะทำอะไรเสี่ยงๆเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
4.The Arched Nose
จมูกงองุ้มตรงสันกลางหักปลาย ผู้ที่มีจมูกเว้าปลายถือว่าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมาก มักเป็นคนที่เอาการเอางานและทำงานเก่ง
5.The Button Nose
จมูกเล็กสั้นสวย เป็นโครงจมูกที่นิยมในคนส่วนมาก คนที่มีจมูกแบบนี้ จัดว่าเป็นคนที่เอาแต่ใจ และทำให้ผู้อื่นรำคาญใจเสมอ มีความคิดที่แน่วแน่ ชอบทำธุรกิจ อยากได้อะไรก็ต้องได้
6.The Straight Nose
สันจมูกยาว แบน ตรง ปีกจมูกกว้าง และปลายมน ส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชียที่มีโครงจมูกลักษณะนี้ เป็นคนแข็ง เจ้าอารมณ์ และโกรธง่าย มีความอดทนต่ำ
7.The Concave Nose
สันกลางจมูกโด่งโค้งเล็กน้อยและเว้าปลาย คนประเภทนี้เป็นคนใจกว้าง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อ่อนไหวง่ายจนอาจถูกผู้อื่นทำให้เจ็บปวดหรือโดนหลอกได้ ง่ายๆ
8.The Crooked Nose
จมูกทรงหักเบี้ยว คนที่มีลักษณะนี้มักเป็นที่รัก เนื่องจากเป็นผู้ฟังที่ดี จึงมีเพื่อนฝูงเยอะ ใส่ใจกับทุกๆเรื่องและปรับตัวเข้ากับสิ่งรอบข้างได้ดี
ที่มา...http://www.share-si.com/2016/12/blog-post_98.html
5 ท่าบริหาร เบิร์นแคลอรี แค่ 10 นาที ก็หุ่นเฟิร์มได้
อยากออกกำลังกาย แต่ไม่มีเวลา ประโยคยอดฮิตของ working woman ทั้งหลาย เชื่อว่าสาวๆหลายคนอยากออกกำลังกายให้หุ่นเฟิร์มกันทั้งนั้น
แต่ปัญหาคือ สถานที่และเวลาช่างไม่เหมาะเอาซะเลย การเข้ายิมครั้งละนานๆกับเทรนเนอร์เพื่อเบิร์นไขมันในแต่ละวันนั้นดูจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับสาวๆที่ยุ่งกับงานทั้งวัน บอกลาปัญหานี้ไปได้เลย
เพราะวันนี้เราได้นำการออกกำลังกายเพื่อเบิร์นแคลอรีมาฝากสาวๆ ที่สำคัญ ทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องมีอุปกรณ์ แถมใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ก็สามารถออกกำลังได้เกือบทุกส่วนของร่างกายเลยทีเดียว
1. Jumping Jacks ท่ากระโดดตบง่ายๆที่เคยทำมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ใครจะรู้ว่ามันก็ช่วยเบิร์นไขมันได้ดีเหมือนกันนะ ให้สาวๆกระโดดตบเป็นเวลา 30 วินาที จุดสำคัญคือพยายามหายใจให้สม่ำเสมอ และใช้ปลายเท้าในการรับน้ำหนักตัวแทนที่จะใช้ส้นเท้า ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดนะจ๊ะสาวๆ
2. High knees ท่านี้ เป็นการวิ่งอยู่กับที่ เพียงแต่ต้องยกเข่าขึ้นมาให้อยู่ในระดับสะโพกในจังหวะที่ยกขาขึ้น ย่ำสลับกันซ้ายขวาโดยรักษาระดับความสูงของเข่าไว้ให้คงที่ ทำให้ครบ 30 วินาที
3. Squat Jumps ท่านี้เป็นการผสมผสานระหว่างการทำสควทและการกระโดด เริ่มจากยืนแยกปลายเท้าห่างกันเท่ากับช่วงสะโพก หลังตรง จากนั้นค่อยๆย่อตัวลงไปทำการสควอทตามปกติ
และเมื่อถึงจังหวะที่เราจะยืดตัวขึ้นจากการทำสควอท แทนที่จะกลับไปยืนนิ่งๆเหมือนท่าเริ่ม ให้สาวๆยืดตัวขึ้นพร้อมกระโดดให้ปลายเท้าลอยจากพื้นเล็กน้อยแทน กระโดดเบาๆจากนั้นย่อตัวสลับกลับมาทำสควอทใหม่อีกรอบ ทำสลับกันไปจนครบ 30 วินาที
4. Alternating Lunges เริ่มจากยืนตัวตรงเท้าชิด จากนั้นให้ก้าวขาซ้ายออกไปวางด้านหลัง (ให้แนวขาที่ก้าวออกไปอยู่ในแนวตรง ไม่เฉียงนะคะ) พร้อมงอเข่าด้านขวาและลำตัวลง จนต้นขาด้านขวาขนานกับพื้น (ลักษณะของขาขวาในstepนี้จะมีลักษณะคล้ายตัว L คว่ำ)
ส่วนขาซ้ายให้ใช้ปลายเท้ารับน้ำหนักตัวไว้ งอเข่าซ้ายจนเกือบแตะพื้น (ลักษณะของขาซ้ายในstepนี้จะคล้ายกับตัว L หงาย ตรงข้ามกับขาขวานั่นเองค่ะ) ค้างไว้ประมาณหนึ่งวินาทีสั้นๆ ก่อนจะดึงขาซ้ายกลับไปยังท่าเริ่มต้น จากนั้น ทำในลักษณะเดิมเพียงแต่สลับเป็นก้าวขาขวาไปด้านหลังแทนขาซ้าย ทำสลับกันซ้ายขวาไปเรื่อยๆจนครบ 30 วินาที
สำหรับท่านี้มือทั้งสองข้างสามารถปล่อยลงขนาบข้างลำตัวสบายๆหรือจะประสานกันยกไว้ในระดับอกเพื่อช่วยในการทรงตัวก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ
5. Squat Taps เป็นผสมผสานระหว่างการทำสควอทและการแตะขา เริ่มจากทำท่าสควอทปกติ แต่ในจังหวะที่เรายืดตัวขึ้นนั้น ให้ยกขาขวาเฉียงออกไปด้านขวาแล้วแตะพื้น จากนั้นดึงขาขวากลับมาที่เดิม ก่อนจะทำการย่อตัวลงและสควอทอีกครั้ง
และเมื่อยืดตัวขึ้น ให้เปลี่ยนเป็นการก้าวขาซ้ายเฉียงออกไปแตะพื้นด้านซ้าย ก่อนจะดึงขาซ้ายกลับมาที่เดิม และให้สลับไปทำสคอทอีกครั้ง ทำสลับกันซ้ายขวาจนครบ 1 นาที
http://www.bedtaledidea.com/2015/09/5-10.html
แจกฟรี ! สูตรหมักไก่ย่างเงินล้าน รสเด็ด อร่อยถูกใจ สามารถเอาไปสร้างอาชีพได้เลย
แจกฟรี! สูตรหมักไก่ย่างเงินล้าน รสเด็ด อร่อยถูกใจ สามารถเอาไปสร้างอาชีพได้เลย
พูดถึงไก่ย่าง เพื่อน ๆ ต้องเคยลองทานมาแล้วหลายแบบ หลายรสชาติ แต่ไก่ย่างที่พบเห็นและทานกันบ่อยๆ คงหนีไม่พ้น ไก่ย่างพังโคน ไก่ย่างวิเชียรบุรี หรือไก่ย่างต่าง ๆ ที่มีขายตามร้านข้างทาง ด้วยรสชาติที่หอม กรอบ อร่อย ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารที่คนนิยมทางเป็นอย่างมาก
บทความนี้เราก็ได้มาแจกสูตรหมักไก่ย่าง ที่มีรสชาติหอม กรอบอร่อยเช่นกัน ให้เพื่อน ๆ ได้ลองไปทำทาน และทำขายสร้างรายได้เป็นอาชีพเสริม หรืออาชีพหลักกันไปเลย
วัตถุดิบและส่วนผสม
- น่องไก่ 4 ชิ้น- รากผักชี
- พริกไทย
- กระเทียม
- ซีอิ้วขาว
- เหล้าจีน
- น้ำผึ้ง
วิธีการทำไก่ย่าง
1. ล้างน่องไก่ให้สะอาด นำรากผักชี พริกไทย และกระเทียม มาตำให้ละเอียด แล้นำมาผสมกับซีอิ้วขาว เหล้าจีน และน้ำผึงในชาม ( ปริมาณกะเอาให้พอดีในการหมักกับน่องไก่ )2. นำน่องไก่มาคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเครื่องปรุง
3. นำน่องไก่ไปย่างที่เตา โดยใช้อุณหภูมิประมาณ 200 C ไม่ควรให้ไฟโดนไก่โดยตรง ย่างไปประมาณ 40 นาที จนไก่สุกทั่ว และเนื้อข้างในชุ่ม
เสร็จแล้วก็พร้อมเสิร์ฟ ทานกับข้าวเหนียวร้อน ๆ และจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่ว สำหรับใครที่กำลังหาอยู่ว่าจะขายอะไรดี ลองนำสูตรหมักไก่ย่างนี้ไปทำขายดูกันก็ได้นะครับ
CR. http://www.bedtaledidea.com/2017/02/blog-post_24.html
วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
9 ประโยชน์มหัศจรรย์ของน้ำมะนาว ทำดื่มเองง่ายๆ ร่างกายไม่เจ็บป่วย
9 ประโยชน์มหัศจรรย์ของน้ำมะนาว ทำดื่มเองง่ายๆ ร่างกายไม่เจ็บป่วย
ประโยชน์ 9 ข้อ ของการดื่มน้ำมะนาว
1. ดื่มน้ำมะนาวช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะมะนาวนั้นอุดมไปด้วยไฟเบอร์ เพคติน จะช่วยลดความ อยากอาหาร
2. ช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดีขึ้น น้ำมะนาวจะไปกระตุ้นตับให้หลั่งกรดย่อยอาหาร
3. ช่วยให้ผิวสะอาด วิตามินซีจะช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ช่วยลดสารพิษในเลือดที่จะส่งผลต่อสุขภาพ
4. ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เรารู้กันดีว่าในน้ำมะนาวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยต่อสู้กับโรคหวัด และมีโพแทสเซียมซึ่งจะไปช่วยกระตุ้นสมอง ระบบประสาท และควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ และยังช่วยลดอาการติดเชื้อ ภูมิแพ้ แผลหายเร็ว
5. ช่วยลดปัญหาทางเดินหายใจ ชงน้ำมะนาวกับน้ำร้อน จิบบ่อยๆ ช่วยลดอาการไอเนื่องจากระคายคอ จะยังช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ หายใจหายคอโล่งสะดวกขึ้นมาก
6. ช่วยให้ร่างกายมีสมดุล น้ำมะนาวเป็นน้ำที่มีความเป็นด่างมาก หากต้องการลดภาวะเลือดเป็นกรด ก็เลือกจิบน้ำมะนาว (กรดซิตริกในน้ำมะนาวไม่ได้สร้างความเป็นกรดในร่างกาย)
7. ช่วยขับปัสสาวะทำให้สารพิษบางส่วนออกไปพร้อมกับปัสสาวะ
8. ดื่มน้ำมะนาวแทนกาแฟในยามเช้า จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
9. ลดอาหารปวดฟัน ลดการอักเสบของเหงือก แต่!! กรดซิตริกอาจจะกร่อนเคลือบฟันของคุณ
*****ภาวะเลือดเป็นกรด (acidosis หรือ hypo-Alkalinity)” จะทำให้ร่างกายมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย หิวง่าย เจ็บคอหอยหรือรู้สึกร้อนในช่วงอก บ้างก็มีอาการเวียนหัว รู้สึกอยากอาเจียน หรือปวดหัว นอนไม่หลับ เป็นต้น*****
Cr. แหล่งข้อมูลที่มา http://health.spokedark.tv
Cr. เพจ เอิงเอย นลินษิตา แสนสามารถ
5 สูตรแก้ผมมันเยิ้มม...วิธีง่ายๆ แต่เห็นผลเร็วมาก!!
ปัญหาผมมันเยิ้มม...กำลังสร้างความหนักใจให้คุณมากใช่ไหม? ผมมัน มีสาเหตุมาจากต่อมน้ำมันใต้รูขุมขนบนหนังศีรษะของเราผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนทำให้หนังศีรษะและเส้นผมมันเยิ้ม จนทำให้หลายคนต้องเผชิญกับปัญหาผมมัน ลีบแบน และจัดทรงยาก
สำหรับวิธีการแก้ปัญหาผมมันและการป้องกันหนังศีรษะมันนั้น เรามาเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาผมมันเบื้องต้นกันก่อนค่ะ
1. สระผมทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ด้วยแชมพูสำหรับผมมันโดยเฉพาะ และไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดผม หรือหากมีผมแห้งที่ปลายผม ควรใช้ครีมนวดผมที่ปลายผมเท่านั้น
2. หลีกเลี่ยงการหวีผมหรือแปรงผมบ่อยๆ เพราะการหวีผมหรือแปรงผมจะกระตุ้นหนังศีรษะให้ผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น
3. พยายามไม่เครียด และพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากความเครียดจะส่งผลโดยรวมต่อสุขภาพ และลดปริมาณเลือดไปเลี้ยงหนังศีรษะ
เมื่อทราบถึงวิธีดูแลผมมันในเบื้องต้นแล้วนั้น เบ็ดเตล็ดไอเดีย ขอแนะนำเคล็ดลับแก้ผมมันดีๆที่คุณก็สามารถทำได้เองจากที่บ้าน ถ้าพร้อมกันแล้วมาพบกับสูตรแก้ผมมันกันเลยค่ะ
สูตรแก้ผมมัน 1. น้ำมะนาว + น้ำกลั่น เพียงแค่นำน้ำมะนาวจำนวน 7 ช้อนโต๊ะ ไปผสมกับน้ำกลั่น 1/2 ถ้วย แล้วนำมาโชลมให้ทั่วหนังศีรษะและเส้นผมนวดด้วยปลายนิ้วเบาๆ หมักทิ้งไว้สัก 2 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก็จะช่วยให้ผมค่อยๆหายมัน และยังทำให้เส้นผมนุ่มสลวยดูสะอาดสะอ้านมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
สูตรแก้ผมมัน 2. น้ำมะนาว + ไข่ไก่ เพียงแค่นำเอามะนาว 1 ลูก บีบเอาแต่น้ำ จากนั้นก็ไข่ไก่จำนวน 2 ฟอง มาสผสมให้เข้ากันกับน้ำมะนาวจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อได้แล้วก็นำมาหมักผมให้ทั่วศีรษะแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น จากนั้นก็สระผมให้สะอาดด้วยแชมพูสำหรับผมมันค่ะ
สูตรแก้ผมมัน 3. น้ำมะนาว + โยเกิร์ต + ผงฟู เพียงแค่นำเอามะนาว 1 ลูก บีบเอาแต่น้ำ จากนั้นก็นำไปผสมกับโยเกิร์ตจำนวน 1 ถ้วย และผงฟู 1 ช้อนชา คนส่วนผสมทั้งหมดให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำมาชโลมเส้นผมให้ทั่วหนังศีรษะ แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เมื่อครบเวลาแล้วก็ล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น จากนั้นก็สระผมให้สะอาดด้วยแชมพูสำหรับผมมันค่ะ
สูตรแก้ผมมัน 4. ว่านหางจระเข้ + มะนาว เพียงแค่นำเอาเนื้อว่านหางจระเข้ จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ ไปผสมกับน้ำมะนาวจำนวน 1/2 ช้อนโต๊ะ เมื่อได้แล้วก็บดส่วนผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมเหลวๆ จากนั้นก็นำไปทาให้ทั่วเส้นผมและบริเวณหนังศีรษะ นวดเบาๆแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เมื่อครบเวลาแล้วก็ล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็น จากนั้นก็สระผมให้สะอาดด้วยแชมพูสำหรับผมมันค่ะ
สูตรแก้ผมมัน 5. น้ำส้มสายชู + น้ำเปล่า เพียงแค่นำเอาน้ำส้มสายชูจำนวน 1 ส่วน ไปผสมกับน้ำเปล่าจำนวน 4 ส่วน แล้วนำมาโชลมให้ทั่วหนังศีรษะและเส้นผมนวดด้วยปลายนิ้วเบาๆ หมักทิ้งไว้สัก 2 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเย็นค่ะ
Cr.http://www.bedtaledidea.com/2015/05/5_86.html
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)