วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ไข่แดงหมักผม เสกผมนุ่มลื่นแลดูสุขภาพดี

ไข่แดงหมักผม


          ไข่แดงหมักผม สูตรลับเพื่อผมสวยของสาว ๆ ทุกรุ่นทุกสมัย ส่งตรงคุณประโยชน์ล้วน ๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาผมเสีย และเปลี่ยนให้เส้นผมของคุณนุ่มสวยอย่างสมบูรณ์แบบ

          ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเส้นผมที่ดูเรียงเส้นสวย และเงางามอย่างมีสุขภาพดี เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับสาว ๆ ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาว ๆ ที่ไว้ผมยาว ยิ่งไม่ควรละเลยการบำรุงดูแลเส้นผมเป็นอันขาด ว่าแล้วกระปุกดอทคอมขอนำวิธีหมักผมสูตรเด็ดด้วยไข่แดง วัตถุดิบมากประโยชน์จากธรรมชาติมาฝากกัน เพื่อให้เส้นผมของคุณพลิ้วสวยมั่นใจได้ทุกวัน

          สำหรับสาว ๆ หลายคนที่ยังสงสัยว่า ไข่แดงให้ประโยชน์อะไรกับเส้นผมได้บ้าง ก็ต้องบอกว่าในไข่แดงนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ,บี,อี รวมถึงสารอาหารบำรุงผมอย่าง เลซิติน ไบโอติน กรดไขมันที่มีประโยชน์กับหนังศีรษะและเส้นผม ที่ช่วยเร่งการเติบโตและงอกของเส้นผม ช่วยเคลือบปิดเกล็ดผมทำให้เส้นผมแข็งแรงเรียงตัวสวย และเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดี ทั้งยังปกป้องผมจากรังสียูวี และป้องกันปัญหาผมหงอกขาวก่อนวัย โดยสาว ๆ สามารถเลือกใช้ได้ตามสูตรหมักผมต่าง ๆ ดังนี้

     ไข่แดง+น้ำมันมะพร้าว

          ใช้ไข่แดง 1-2 ฟองผสมกับน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 3 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำมาหมักให้ทั่วผม ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงแล้วล้างออกให้สะอาด ทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ทำอย่างนี้ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ขึ้นไป จะช่วยลดปัญหารังแคบนหนังศีรษะ และปัญหาผมเสียจากสารเคมีตกค้าง ไม่ว่าจะดัด ทำสี ย้อม ยืดมาแค่ไหนผมของคุณจะดูนุ่มสลวยขึ้นได้แน่นอน

    ไข่แดง+โยเกิร์ต  

          นำไข่แดงและโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย ผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็ชโลมให้ทั่วเส้นผม ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยแชมพู ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะช่วยให้เสริมความแข็งแรงให้เส้นผมที่เคยอ่อนแอ ขาดเปราะง่าย และมีปัญหาแห้งเสียมาก กลับฟื้นคืนสภาพดูมีสุขภาพดีได้ในเร็ววัน

    ไข่แดง+เบียร์
          เลือกเอาแต่ไข่แดง ผสมกับเบียร์ประมาณ 1/3 ของกระป๋อง (อาจเพิ่มสัดส่วนได้ตามความของเส้นผม) ลงในชามกวนให้เข้ากันดี แล้วทาลงบนผมที่แห้งให้ทั่ว โดยเว้นบริเวณหนังศีรษะเอาไว้แล้วใส่หมวกอาบน้ำคลุมไว้ หมักทิ้งประมาณ 15-30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดจนกว่ากลิ่นเบียร์จะจางลง สูตรนี้จะทำให้ผมนุ่มลื่นและมีประกายเงางาม

          ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมมาก-น้อยแค่ไหน ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเสียเงิน และหาเวลาไปนั่งทำทรีทเม้นท์ตามซาลอนอีกต่อไป แค่เตรียมไข่แดงและวัตถุดิบเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ก็ได้ผมสวยเริ่ดมาครอบครองแล้วล่ะครับ

Cr.http://women.kapook.com/view90858.html

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

บอกลา..รักแร้ดำ ด้วย 5 สูตรธรรมชาติ ที่ได้ผล100%



สาวๆหลายคนอาจไม่กล้าใส่เสื้อแขนกุดเพราะปัญหารักแร้ดำ..รักแร้หนังไก่ ปัญหาผิวหนังใต้วงแขนที่กวนใจสาวๆแบบสุดๆ นับต่อจากนี้ไปรับรองว่าความมั่นใจของ สาวๆจะกลับคืนมาอีกครั้ง 


วันนี้เรามีวิธีแก้รักแร้ดำง่ายๆแบบไม่ต้องพึ่งสารเคมี พร้อมกับเคล็ดลับดีๆที่ช่วยแก้ปัญหารักแร้ดำให้กลับมาขาวเนียน จนสาวๆสามารถโชว์วงแขนได้โดย ไม่ต้องอายใครอีกต่อไปค่ะ 

รักแร้ดำคล้ำเกิดจากอะไรบ้าง ? 

1. กรรมพันธุ์ 
2. แพ้สารเคมี
3. การติดเชื้อแบคทีเรีย
4. อาการระคายเคืองจากการโกนขนรักแร้
5. การเช็ดถูแรงๆ หรือ การเสียดสีเป็นเวลานาน 

แต่ปัญหาทั้งหมดนี้จะหายไปเพียงแค่คุณทำตามสูตรแก้รักแร้ดำดังต่อไปนี้ 


1. มันฝรั่ง ทราบหรือไม่ว่ามันฝรั่งช่วยแก้รักแร้ดำให้กลับมาขาวเนียนได้ด้วยนะ เนื่องจากว่าในมันฝรั่งมีเอนไซม์ธรรมชาติที่ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้ หากนำเอามันฝรั่ง มาหั่นเป็นแว่นบางๆ หรือจะเลือกวิธีขูดให้เป็นเนื้อละเอียดๆก็ได้ค่ะ แล้วนำไปขัดถูที่รักแร้เบาๆ จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แนะนำว่า ทำสัปดาห์ละครั้งก็พอค่ะ 


2. มะขาม สุดยอดสมุนไพรสารพัดประโยชน์ใกล้ตัวที่ช่วยให้คุณบอกลาปัญหารักแร้ดำได้อย่างเห็นผลชัดเจน เพียงแค่นำเอามะขามเปียกมาผสมกับน้ำผึ้งเพียงนิด หน่อย แล้วนำมาทาที่รักแร้ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แนะนำว่าควรทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือวันเว้นวัน ไม่นานรักแร้ที่เคยดำก็จะค่อยๆกลับมาขาวเนียนอีกครั้งค่ะ 


3. มะนาว อีกหนึ่งเคล็ดลับแก้รักแร้ดำที่ได้รับความนิยมมากๆ เพียงแค่มะนาวสดนำมาฝานเป็นแว่นๆ แล้วนำเมล็ดออก จากนั้นก็นำมาถูที่รักแร้ และทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด พยายามเป็นประจำทุกๆวัน ก็จะช่วยทำให้รักแร้ของคุณค่อยๆขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ 


4. แตงกวา ผักในตู้เย็นที่ช่วยให้รักแร้กลับมาขาวเนียนได้เป็นอย่างดี เพียงแค่นำเอาแตงกวามาปั่นแล้วคั้นเอาแต่น้ำ จากนั้นก็นำไปผสมกับน้ำมะนาว ผงขมิ้น ให้เป็น เนื้อครีมเหลวๆ จากนั้นก็นำมาทาที่รักแร้แล้วทิ้งไว้อระมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด พยายามทำให้ได้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือวันเว้นวัน แล้วคุณจะรุ้สึกได้ เลยว่ารักแร้เริ่มขาวขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ! 


5. น้ำมันมะพร้าว อีกหนึ่งสูตรขจัดปัญหารักแร้ดำที่ได้ผลดี เพียงแค่นำเอา น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ ไปผสมกับน้ำแตงกวาคั้นสด 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนชา และ ผงขมิ้นครึ่งช้อนชา คนให้เข้ากันดีจนเป็นเนื้อครีม จากนั้นนำไปทาให้ทั่ววงแขน ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด แนะนำว่าควรทำเป็นประจำ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพียงเท่านี้ปัญหารักแร้ดำก็จะค่อยๆดีขึ้นค่ะ 

Cr.http://bedtaledidea.blogspot.hk/2015/05/5-100.html

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ลดสิวหนอง หน้าใส หุ่นดี ผิวสวย ประโยชน์ของน้ำผึ้งที่ไม่ธรรมดา!!!

วันนี้มี เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำผึ้งมาฝาก มีทั้งประโยชน์เกี่ยวกับการลดสิวหนอง ช่วยหน้าใส ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น นอกจากนี้น้ำผึ้งยังช่วยให้หุ่นดีอีกด้วย ว่าแล้วอย่ารอช้าตามมาดูไปทีละข้อได้เลยครับ


น้ำผึ้งโลชั่นบำรุงผิวจากธรรมชาติ


เนื่องจากองค์ประกอบส่วนใหญ่ในน้ำผึ้ง คือ น้ำ น้ำตาลและสารมิวซิน จึงมีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพรรณโดยเฉพาะคนที่ผิวแห้ง ด้วยเหตุนี้เครื่องสำอางที่ทีคุณภาพดีมีราคา จึงนิยมนำน้ำผึ้งมาเป็นส่วนประกอบสำคัญ

หน้าใสด้วยวิตามินซี และวิตามินบีคอมเพล็กซ์ในน้ำผึ้ง


เนื่องจากในน้ำผึ้งมีองค์ประกอบของวิตามินที่สำคัญหลายชนิด เช่น วิตามินบีคอมเพล็กซ์เป็นองค์ประกอบร่วม (Co-Factor) ในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปนตีน และไขมัน เพื่อสร้างพลังงานและยังทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานปกติ รวมไปถึงระบบหมุนเวียนโลหิต ผลที่ตามมาคือทำให้ผิวพรรณสดใส และวิตามินซีซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระจึงสามารถลดเลือนจุดด่างดำ และริ้วรรอยก่อนวัยได้

รักษาสิวด้วยน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งกับสิวหนอง


เนื่องจากน้ำผึ้งมีความเป็นกรด จึงสามารถต้านการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการอักเสบของผิวได้ ที่สำคัญยังมีสารอินฮิบิน ที่เกิดจากน้ำผึ้งสลายตัวให้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดโอกาสการเกิดสิวหนองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้น้ำผึ้งยังสามารถช่วยสมานแผลได้อีกด้วย

หุ่นสวยด้วยน้ำผึ้ง


สำหรับคนที่ลดความอ้วน อดอาหาร หรือกินอาหารในปริมาณน้อยลง ร่างกายและจิตใจจะมีความเครียดสูง เพราะในชีวิตประจำวันร่างกายยังคงต้องการพลังงานเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างเพียงพอ น้ำผึ้งจึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่อดอาหาร เพราะในน้ำผึ้งมีธาตุอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่า การลดน้ำหนักที่ดีควรควบคุมปริมาณแคลอรี่ลงประมาณ 10-30% ต่อวันก็จะสามารถลดน้ำหนักได้เองตามธรรมชาติ

น้ำผึ้งกับเรื่องผิวพรรณนี้เป็นของคู่กันจริงๆ เป็นครีมจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงทั้งผิวหน้าและผิวกาย โดยเฉพาะกับเรื่องสิวถือว่ามีประโยชน์มาก!!

ขอขอบคุณที่มา : หนังสือสมาคมผู้เลี้ยงผึ้งแห่งประเทศไทย 

Cr.http://acnedefend.blogspot.com/2015/05/benefit-of-honey.html

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ขัดผิวทุกวันไม่ใช่เรื่องดี



ผู้หญิงหลายคนอาจคิดว่าการขัดผิวทุกวันจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกได้ ช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวเนียนนุ่ม การขัดผิวทุกวันทำให้ผิวคุณมีน้ำมันมากขึ้น ยิ่งทำให้ผิวจับสิ่งสกปรกและแบคทีเรียได้มากยิ่งขึ้น การขัดผิวทำให้ผิวบางลงหากไม่ได้รับการบำรุงหรือป้องกันแสงแดดจะยิ่งทำให้ผิวดูแย่ลง 

       การขัดผิวควรทำเพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ และควรทำในเวลากลางคืน หลังการขัดผิวควรบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยทุกครั้ง และอย่าลืมครีมกันแดดก่อนออกข้างนอก

Cr.http://women.thaiza.com/ขัดผิวทุกวันไม่ใช่เรื่องดี/317804/
#ครีมสมุนไพรกำจัดไฝขี้แมลงวันกระติ่งเนื้อตาปลาbylilyshop43

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เก็บไว้ทำไมติ่งเนื้อ...กำจัดมันออกไปเถอะ!!




ติ่งเนื้อ (Skin tag) คือ เนื้องอกชนิดหนึ่งที่มิใช่มะเร็ง พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรทั่วไป ติ่งเนื้อผิวหนัง เป็นเนื้องอกที่ประกอบด้วย เนื้อเยื่อผิวหนัง ทั้งที่เป็นหนังกำพร้า (ที่เป็นเนื้อเยื่อส่วนนอกสุด) ถัดลงไปคือ หนังแท้ และส่วนในสุดเป็นเนื้อเยื่อไขมัน 

ซึ่งทั้งนี้ ยังไม่เคยมีรายงานว่า เนื้องอกติ่งเนื้อผิวหนังกลายเป็นเนื้องอกมะเร็ง กลไกการเกิดโรคติ่งเนื้อผิวหนังยังไม่เป็นที่ทราบชัดเจน แต่มักพบติ่งเนื้อเกิดในบริเวณที่ผิวหนังมีการเสียดสีต่อเนื่องกับผิวหนังด้วยกัน (เช่น ผิวหนังส่วนที่มีรอยย่นต่างๆ) หรือกับเสื้อ ผ้า เครื่องประดับ (เช่น ที่ลำคอ)

นอกจากนั้น การศึกษาทางสถิติยังพบว่า โรคติ่งเนื้อผิวหนัง มีความสัมพันธ์กับ ความอ้วน เบาหวานชนิดที่ 2 โรคไขมันในเลือดสูง และโรคหัวใจ อย่างไรก็ตามถ้าหากร่างกายเราเกิดติ่งเนื้อที่มากเกินไปโดยเฉพาะบริเวณคอหรือหน้าเวลาถ่ายรูปก็จะดูไม่สวยและไม่สะอาดนะครับ แนะนำให้รีบ กำจัดติ่งเนื้อ   ออกไปเสียดีกว่า 

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

พฤติกรรมเสี่ยงสิว จุดด่างดำ



สาวๆ ที่ไม่อยากให้สิวมาเยือนบนใบหน้า ก็ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดสิวกัน

       1. แต่งหน้านานเกิน8 ชม. ผิวไม่ได้หายใจ อึดอัดจากรองพื้น ผิวที่มันเยิ้ม
       2. ไม่ขับถ่ายทุกวัน ท้องผูก สะสมของเสียไว้ในร่างกาย
       3. การเติมแป้งระหว่างวัน เพราะในพัพอาจมีเชื้อโรคสะสม
       4. กลับบ้านไม่ล้างหน้าทันที หรือนอนเลยโดยไม่ล้างหน้า ทั้งเครื่องสำอาง ผสมกับฝุ่น มลภาวะ สิ่งสกปรกที่สะสมมาทั้งวัน
       5. ล้างหน้าไม่สะอาดจริงๆ ยังมีสิ่งสกปรกตกค้าง คราบเครื่องสำอาง ครีมกันแดด
       6. นั่งแคะแกะเกา ยิ่งทำให้สิวลุกลาม
       7. ระหว่างวันชอบจับหน้าบ่อยๆ ทั้งวันมือของเราจับอะไรมาบ้าง ทั้งฝุ่นเชื้อโรค แล้วก็มาสัมผัสกับใบหน้า

       8. ใช้เครื่องสำอาง ครีม ไม่เหมาะกับผิว เช่นผิวมันแต่ไปใช้อะไรที่มันเยิ้ม เพิ่มโอกาสในการเพิ่มสิว

Cr.http://women.thaiza.com/พฤติกรรมเสี่ยงสิว-จุดด่างดำ/317082/
#ครีมสมุนไพรกำจัดไฝขี้แมลงวันกระติ่งเนื้อตาปลาbylilyshop43

จะเป็นอย่างไรถ้าเรากินเนื้อสัตว์มากเกินไป



หากกินบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง เนื้อสัตว์ ติดๆ กัน เราจะได้รับโปรตีนมากไปหรือเปล่านะ แล้วจะส่งผลกับสุขภาพอย่างไร

        เนื้อสัตว์จัดอยู่ในอาหารประเภทโปรตีน ก็มีประโยชน์และจำเป็นกับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู หรืออาหารทะเล แต่การรับประทานมากเกินไป ย่อมส่งผลเสียกับสุขภาพแน่นอน

การได้รับโปรตีนมากเกินไป

        - จะมีปริมาณยูเรียในเลือดสูง เลือดมีภาวะเป็นกรด ทำให้ตับและไตทำงานหนักในการกำจัดยูเรียออกผ่านทางปัสสาวะ 

       - ส่งผลกับระบบย่อยอาหาร จึงควรรับประทานผักและผลไม้ควบคู่ไปด้วย

       - คอเลสเตอรอลและไขมันสะสมในร่างกาย 

       - เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ส่วนที่มีไขมันน้อย หรือตัดส่วนที่เป็นไขมันออกไป

       - เลือกเนื้อสัตว์คุณภาพดี ผลิตได้มาตรฐาน ช่วยให้ปลอดภัยจากสารเคมีและสิ่งตกค้าง

Cr.http://women.thaiza.com/จะเป็นอย่างไรถ้าเรากินเนื้อสัตว์มากเกินไป/317369/
#ครีมสมุนไพรกำจัดไฝขี้แมลงวันกระติ่งเนื้อตาปลาbylilyshop43

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

น้ำมันมะพร้าว กับประโยชน์ความงามที่รู้แล้วต้องทึ่ง !



น้ำมันมะพร้าว ของพื้น ๆ ธรรมดา ๆ ที่มีราคาแสนถูก แต่คุณสาว ๆ รู้ไหมคะว่าประโยชน์ในด้านความงามของมันนั้นมีเกินตัวเชียวนะ ถ้ารู้แล้วต้องทึ่งอย่างแน่นอน

          น้ำมันมะพร้าว หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้กันบ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยรู้ว่านอกจากจะเอามาทำอาหารได้แล้ว เจ้าตัวนี้ก็ยังมีประโยชน์ในด้านความงามมากมายที่จำเป็นสำหรับสาว ๆ อย่างเราอีกด้วย ซึ่งเรียกได้เลยว่าเป็นน้ำมันมหัศจรรย์ที่สามารถเนรมิตความสวยให้กับผู้หญิงได้ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเลยเชียวแหละ ซึ่งเรื่องนี้จะจริงแท้แค่ไหน คุณสาว ๆ คงจะต้องลองพิสูจน์กันเอาเอง แต่ทั้งนี้ถ้าอยากจะรู้ว่าน้ำมันมะพร้าวจะช่วยบำรุงความงามให้กับเราในเรื่องใดได้บ้าง ตามมาศึกษาข้อมูลดี ๆ กันก่อนเลยค่ะ


น้ำมันมะพร้าว
เป็นคลีนซิ่งชั้นดี

          เนื่องจากจากน้ำมันมะพร้าวมีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถที่ซึมซับและทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าเป็นคลีนซิ่งชั้นดีที่จะทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจด เพียงแค่นำสำลีมาชุบกับน้ำมันมะพร้าวแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แค่นี้เครื่องสำอางและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่บนใบหน้าก็จะหลุดออกไปได้อย่างง่ายดาย


น้ำมันมะพร้าว
บำรุงผิวหน้าให้สวยใสเนียนกิ๊ก

          น้ำมันมะพร้าวเป็นสารประกอบจากธรรมชาติที่สามารถให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนังได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ทุก ๆ วันก่อนนอนใช้สำลีชุบน้ำมันมะพร้าวเพียงเล็กน้อยทาลงบนหน้า โดยทิ้งไว้ไม่ต้องล้างออก ตื่นเช้ามาหน้าจะเนียนเด้ง และชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และถ้าทำบ่อย ๆ ปัญหาเรื่องรอยดำจากสิว กระ ฝ้า และรอยเหี่ยวย่นต่าง ๆ บนใบหน้าก็จะค่อย ๆ หมดไป


น้ำมันมะพร้าว
หมดปัญหาเรื่องสิว

          คนเรามักจะมีสิวอุดตันอยู่บนใบหน้า อันเนื่องมาจากรูขุมขนกว้าง และในแต่ละวันต้องเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ ทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันในรูขุมขน นาน ๆ ไปก็จะเกิดเป็นสิวอักเสบขึ้นมาให้ปวดใจ แต่ทั้งนี้น้ำมันมะพร้าวจะสามารถเป็นตัวช่วยกำจัดปัญหาสิวได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ใช้น้ำมันมะพร้าวเช็ดหน้าก่อนล้างหน้าด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้า มันจะช่วยซึมเข้าไปทำความสะอาดรูขุมขนและกำจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้อย่างล้ำลึก ทำให้ปัญหาสิวลดลง แถมยังช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลงได้ด้วย


น้ำมันมะพร้าว
หยุดปัญหารอยคล้ำ รอยตีนกา

          น้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติบำรุงผิวรอบดวงตาได้ไม่ต่างจากอายครีม เพียงแค่นำน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์มาหยดลงบนสำลี 2-3 หยด จากนั้นนำมาเช็ดผิวหนังรอบดวงตา ไม่นานรอยคล้ำใต้ตา รวมถึงรอยตีนกาก็จะค่อย ๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญยังจะช่วยปรับสภาพผิวบริเวณดวงตาให้ดูดีขึ้น และช่วยให้ขนตายาวขึ้นได้ด้วย


น้ำมันมะพร้าว
เส้นผมเงางามเป็นธรรมชาติ

          อีกหนึ่งประโยชน์ด้านความงามของน้ำมันมะพร้าวก็คือ ช่วยบำรุงเส้นผมเส้นต่อเส้นให้มีสุขภาพดี โดยก่อนสระผมให้นวดผมด้วยน้ำมันมะพร้าวและหมักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ทำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ผมของคุณจะดกดำเงางามเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญยังจะช่วยบรรเทาอาการผมร่วง และช่วยไม่ให้ผมหงอกได้อีกด้วย


น้ำมันมะพร้าว
ช่วยดับกลิ่นเต่า

          ในน้ำมันมะพร้าวจะมีกรดธรรมชาติสำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ดี ดังนั้นจึงมีประโยชน์สามารถช่วยระงับสาเหตุของการเกิดกลิ่นกลายได้เป็นอย่างดี เพียงแค่หลังอาบน้ำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวทารักแร้เป็นประจำ แค่นี้ก็มั่นใจได้ตลอดวัน ไม่จำเป็นต้องเพิ่งโรออนระงับกลิ่นกายราคาแพง ๆ เลยค่ะ


น้ำมันมะพร้าว
บำรุงเล็บให้แข็งแรง

          อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าในน้ำมันมะพร้าวมีสารบำรุงที่มีประโยชน์อยู่มากมาย รวมถึงเพิ่มความแข็งแรงให้กับเล็บมือเล็บเท้าของเราได้ด้วย เพียงแค่นำน้ำมันมะพร้าวมาชโลมทาให้ทั่วมือ เล็บ และเท้า นอกจากจะช่วยให้เล็บแข็งแรง ไม่เปราะหักง่ายแล้ว ยังจะช่วยให้มือเนียนนุ่มน่าสัมผัสมากขึ้นด้วย


น้ำมันมะพร้าว
รักษาส้นเท้าแตก

          น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดีมาก ดังนั้นจึงจะช่วยรักษาอาการแตกแห้งของส้นเท้าได้เป็นอย่างดี โดยให้ลองนวดส้นเท้าด้วยน้ำมันมะพร้าวทุกวันก่อนนอน เพียงแค่อาทิตย์เดียว รับรองเห็นผล อาการส้นเท้าแตกจะหายไป ที่สำคัญจะช่วยทำให้ผิวหนังบริเวณเท้าที่แห้งกร้านเนียนนุ่มขึ้นด้วย

          โอ้โห... เรียกได้ว่าประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวนี่มีครบครันจริง ๆ ใช้เนรมิตความงามได้ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเลยนะเนี่ย เห็นทีคงจะต้องหาซื้อน้ำมันมะพร้าวมาไว้ติดบ้านกันเยอะ ๆ แล้วล่ะค่ะ สวยได้แถมยังประหยัดแบบนี้ หวังว่าคงจะถูกใจคุณสาว ๆ กันนะคะ ^^


Cr.http://women.kapook.com/view116142.html

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

มากินคลีนเพื่อสุขภาพกันเถอะ...



ความสวยจากภายนอกเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเราสามารถแต่งเติมได้ นอกจากการบำรุงผิวด้วยบรรดาผลิตภัณฑ์ทั้งหลายแล้ว ผู้หญิงเราก็ควรสวยจากภายใน ซึ่งด้วยผิวพรรณดี ไม่แก่ก่อนวัย ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์บางคนอาจเลือกที่จะรับประทานอาหารเสริม แต่ถ้าเราเลือกรับประทานอาหาร ผลไม้สดๆ ย่อมดีกว่าแน่นอน

1. ผัก ผักเป็นแหล่งรวมของวิตามิน ช่วยให้ผิวสดใส
2. ปลาทะเล มีสารต้านอนุมูลอิสระ
3. ผลไม้ แหล่งรวมวิตามินสำหรับผิว เช่น แอปเปิ้ล องุ่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
4. น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น ไม่แก่ก่อนวัย
5. น้ำเปล่า ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ผิวชุ่มชื้น
6. ระวังในการรับประทาน น้ำตาล และเกลือ อาจทำให้เกิดสิว อาการบวมน้ำ ผิวแก่ก่อนวัย

#ยาสมุนไพรกำจัดไฝขี้แมลงวันกระติ่งเนื้อตาปลาbylilyshop43
Cr.http://women.thaiza.com/สวยจากภายในด้วยการกิน/313856/

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฟื้นฟูตัวเอง 15 วัน เปลี่ยน...ให้สวย



ฟื้นฟูตัวเอง 15 วัน เปลี่ยน...ให้สวย ความรักทำให้คนดูสดใส ส่วนคนที่ถูกแฟนทิ้ง อกหักรักคุด มักทรุดโทรมทั้งกายและใจ ปล่อยตัวจนผิวหมองหม่นไม่สดใส ใต้ตาคล้ำ หมดเวลาทำร้ายตัวเอง ดร. พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาความรู้ผลิตภัณฑ์ระดับนานาชาติ สถาบันการเรียนรู้และฝึกอบรม ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค อะคาเดมี แนะวิธี 15 วัน เปลี่ยน...ให้สวย เป็นคนใหม่ ด้วยการปฏิบัติฟื้นฟูตัวเอง “จากภายในและภายนอก” ว่า อยากสวย อยากดูดี ลองให้เวลากับตัวเองอย่างจริงจัง 15 วัน ที่จะเปลี่ยน...ให้สวย เป็นคนใหม่ ด้วยปฏิบัติการฟื้นฟูตัวเองทั้งจากภายในและภายนอก โดยวันที่ 1-5 เป็นก้าวแรกของช่วงเวลาสำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลง เพียงเปลี่ยนมุมคิดจากที่ “อยาก” เป็นคนมีความสุข สวยสดใส มา “เชื่อ” ว่าคุณ “เปลี่ยนแปลงตัวเองได้” หยุดผัดวันประกันพรุ่งแล้วเริ่มนับหนึ่งวันนี้ 

“วางแผน” ฟื้นฟูตัวเองทั้งภายในภายนอกลงไดอารี่หรือปฏิทิน เริ่มต้นที่การ “ฝืนเข้านอนแต่หัวค่ำ” เพราะสาวอกหักรักคุดมักคิดมาก ไม่ยอมนอนก่อนเที่ยงคืน ฮอร์โมนซ่อมแซมตัวเองจึงแปรปรวน ร่างกายยิ่งหลั่งสารเครียดมากขึ้น ให้บังคับตัวเองค่อยๆ ขยับนอนเร็วขึ้นวันละครึ่งชั่วโมง เมื่อเข้านอนก่อนสี่ทุ่มได้ฮอร์โมนในร่างกายเริ่มปรับคืนสมดุล ร่างกายจะเริ่มซ่อมแซมตัวเองได้ดี อีกเรื่องที่ต้องเปลี่ยนคือ “ฝืนตื่นให้เช้าขึ้น” ทุกเช้าที่ตื่นโยคะปอดด้วยการ “สูดหายใจช้าลึกๆ ยาวๆ” เต็มปอดสักนาทีพาออกซิเจนเข้ากระตุ้นให้สดชื่นแล้ว “ยืดเส้นยืดสายรับแดดเช้า” แกว่งแขนสัก 10 นาที ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อ สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงผิวหนังให้สดใสได้ง่ายๆ แดดเช้ายังช่วยให้สร้างวิตามินดีขึ้น สมองตื่นตัว อารมณ์ดีขึ้นได้ไม่น่าเชื่อ 

จากนั้นลองลงทุนให้ตัวเองด้วยการ “หาตัวช่วยเปลี่ยนให้สวยไว” เริ่มบำรุงกันไปทุกวันเช้าเย็นจนครบ 15 วัน เลือกเซรั่มฟื้นบำรุงผิวดีๆ มาทาแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน หย่อนคล้อย และ กินวิตามิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไว้ใจได้ เช่น ส่วนผสมพวก ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน หรือ สารต้านอนุมูลอิสระจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส ช่วยฟื้นฟูทั้งผิวหน้าและผิวกายที่เสื่อมโทรมจากภายในให้กระชับ เปล่งปลั่ง สดใสขึ้น และอย่าลืมทาโลชั่นกันแดดทุกเช้าเพื่อป้องกันผิวกลับไปโทรมแบบเดิมอีก ที่สำคัญคือทุกๆ เย็นให้ “จดบันทึก” สิ่งที่คุณเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ ทุกเย็น และวางแผนวันต่อไปด้วย 

วันที่ 6-10 ผ่าน 5 วันแรกของการเปลี่ยนตัวเองได้ ก็นับว่าชนะใจตัวเอง ความมั่นใจจะเพิ่มขึ้น คุณจะพบว่าการหันกลับมาดูแลตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป คราวนี้วางแผนเพิ่มดีกรีฟื้นฟูความสวยด้วยการปรับสมดุลกายใจจากภายในแบบง่ายๆ เช่น แทนที่จะรอไปเข้าคอร์สฝึกสมาธิยาวที่ไม่ได้ไปสักที ลองหัดสวดมนต์สั้นๆ “นั่งสมาธิ” เองที่บ้านวันละ 5-15 นาที เพราะมีการวิจัยว่า ช่วยปรับคลื่นสมองให้คลายจากภาวะเครียด ปรับสมดุลฮอร์โมนดีได้จริง สาวใดทรุดโทรมเพราะถูกหักอกก็อย่าลืมแผ่เมตตาให้อภัยกับหนุ่มคนนั้น เพราะความโกรธเคืองเป็นตัวเร่งให้ฮอร์โมนความเครียดถูกหลั่งออกมาทำร้ายเซลล์ให้โทรมได้ “ออกกำลังกายเบาๆ” เช่น จ๊อกกิ้งวันละ 20 นาที แทนการลงทุนจ่ายค่าฟิตเนสรายปี จะเพิ่มการไหลเวียนเลือด ขับของเสียใต้ผิวให้ดูเปล่งปลั่งขึ้น อย่าลืมทาเซรั่มบำรุงผิว กินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างต่อเนื่อง 

“ฝึกเลือกกินสิ่งดีๆ” เลิกเอาแต่ใจตัวเอง เช่น ปฏิเสธน้ำอัดลมหรือชากาแฟเย็นหวานๆ เค้ก ที่มีน้ำตาลทำลายคอลลาเจนให้ผิวแห้งหยาบ เปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่ากินผลไม้แทน เลิกเขี่ยผักทิ้งแล้วเปลี่ยนมาเขี่ยหนังสัตว์ ของทอด ทิ้งบ้าง แบบฝึกหัดเล็กๆ นี้จะหัดใจให้เลือกสิ่งดีๆ ช่วยขัดเกลานิสัยตามใจตัวเองที่ชอบเลือกของกินอร่อยแต่ไร้คุณค่ามาทำร้ายให้กายโทรม หรือเลือกหนุ่มฮ็อทถูกสเปคแต่ไร้หัวใจมาทำร้ายให้ใจช้ำภายหลังนั่นแหละ อย่าลืมบันทึกความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณทำได้ในแต่ละวันด้วย เพราะจะทำให้คุณเชื่อมั่นยิ่งขึ้นว่า “คุณเปลี่ยนได้” 

ช่วงวันที่ 11-15 ให้ “เขียนสรุปความเปลี่ยนแปลง” ที่คุณรู้สึกได้ เช่น ฉันรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น มั่นใจขึ้น ผิวหน้าผิวกายดูกระจ่างเนียนนุ่มขึ้น รูปร่างอาจไม่ผอมแต่ก็เริ่มเฟิร์มขึ้น เพราะวิธีง่ายๆ ที่ทำมาครบ 10 วันนี้ ช่วยปรับสมดุลให้ทั้งจิตใจภายในและร่างกายภายนอกได้ ให้ทำเป็นกิจวัตรพื้นฐานทุกวัน วางแผนอีก 5 วันสุดท้ายเพิ่มโปรแกรมเปลี่ยนให้สวยครั้งใหญ่ เริ่มที่ “บ้านโล่งสะอาด” คือบ่อเกิดของจิตใจอันสดใส ลงแรงปัดกวาดเช็ดถู ขยับย้ายเฟอร์นิเจอร์ ยัดของขวัญ รูปแฟนเก่าลงกล่องทิ้งหรือเข้าห้องเก็บของ แล้ว “ปรับลุคเปลี่ยนชีวิต” ด้วยการรื้อเสื้อผ้าเก่าโทรมไปบริจาค ออกไปช้อปเสื้อผ้ารองเท้าตามสไตล์ที่ปิ๊งเมื่อเปิดหนังสือแฟชั่นเล่มล่าสุด หรือลองหยิบเสื้อผ้าตัวโปรดจับสลับสร้างสไตล์ใหม่ กล้าเปลี่ยนแล้วชีวิตจะสนุกขึ้น ลงทุนทำสีผมใหม่ ตัดใจเปลี่ยนสไตล์ให้สดใสไปเลย ที่สำคัญเลิกลงแค่แป้งฝุ่น แต่ให้แต่งหน้าจัดเต็มราวกับทุกวันเป็นวันพิเศษ ทั้งรองพื้น บลัชออน อายแชโดว์ ลิปสติกสีแจ่ม การปรับเปลี่ยนภายนอกนี้บ่งบอกว่าคุณใส่ใจตัวเองและส่งผลต่ออารมณ์ภายในได้ แล้ว “นัดเพื่อนไปทำอะไรดีๆเพื่อคนอื่น” เช่นทำบุญสถานรับเลี้ยงเด็ก คนชรา ปล่อยปลา จะช่วยให้ค้นพบคุณค่าในตัวเองด้วย 

สาวๆ คนไหนที่ทำครบโปรแกรม 15 วัน เปลี่ยน...ให้สวย แล้วยังตัดใจจากแฟนเก่าไม่ได้ หรืออาจยังไม่เจอคู่ปิ๊งคนใหม่ แต่เชื่อแน่ว่าเมื่อได้ส่องกระจก รับรองว่าจะเห็นคนที่สวยขึ้นทั้งจากภายในและภายนอก และนี่คือบทสรุปรักครั้งใหม่ที่ยั่งยืน ซึ่งคุณได้มอบให้แก่ตัวเองด้วยการดูแลอย่างถูกวิธี และจะเป็นแรงดึงดูดสิ่งดีๆ ให้เข้ามาในชีวิต รักตัวเองก็เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้เลย

Cr.http://www.dailynews.co.th/women/214396        

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เมนูลดความอ้วนภายใน 15 วัน

จริงๆ แล้วภายใน 15 วันเราอาจจะไม่สามารถลดน้ำหนักลงไป 5 โล หรือ 10 โล ภายในระยะเวลาไม่กี่วัน แต่ถ้าสาวๆ ควบคุมปริมาณแป้งและเพิ่มปริมาณของผักผลไม้ให้มากขึ้นแบบนี้ไปเรื่อยๆ น้ำหนักของสาวๆ จะต้องลดลงอย่างแน่นอน แถมยังสุขภาพดีขึ้นด้วย มาดูกันดีกว่าว่าเมนูลดความอ้วน 15 วัน มีอะไรบ้าง

วันที่ 1
เช้า : กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล + ขนมปังโฮลวีท + ไส้กรอก 1 ชิ้น + สัปปะรด 4 ชิ้นเล็กๆ
กลางวัน : ผัดบล็อกโคลี่กุ้ง + ข้าวกล้อง
เย็น : ปลากระพงนึ่งมะนาวราดพริก + ผักต้ม



วันที่ 2
เช้า : น้ำเต้าหู้ใส่เม็ดแมงลัก + กล้วยหอม 1 ลูก
กลางวัน : อกไก่ผัดกระเทียมพริกไทย + ข้าวกล้อง
เย็น : ไข่ต้ม 2 ฟอง + สลัดผัก

วันที่ 3
เช้า : โจ๊กหมู 1 ถ้วย
กลางวัน : อกไก่ผัดกระเพรา + ข้าวกล้อง
เย็น : ต้มจืดผักกาดขาวใส่หมูสับ + แอปเปิ้ล ½ ลูก



วันที่ 4
เช้า : ไข่ต้ม 1 ฟอง + ไส้กรอก + ขนมปังโฮลวีท + โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
กลางวัน : ยำวุ้นเส้นหมูสับ
เย็น : อกไก่นึ่งราดซอสพริก + ผักต้ม


วันที่ 5
เช้า : นมจืดพร่องมันเนย 1 กล่อง + ไข่เจียวออมเลต
กลางวัน : อกไก่ผัดน้ำมันหอย + ข้าวกล้อง
เย็น : สลัดทูน่า + แอปเปิ้ล


วันที่ 6
เช้า : น้ำเต้าหู้ใส่ผงชาเขียวกับจมูกข้าวสาลี + กล้วยหอม 1 ลูก
กลางวัน : ปลาดอรี่นึ่ง + ผักต้ม + น้ำผลไม้ปั่น
เย็น : เกาเหลา 1 ชาม (ไม่ใส่น้ำมัน)



วันที่ 7
เช้า : ข้าวต้มกุ้ง 1 ถ้วย
กลางวัน : ยำทูน่า + ไข่ต้ม 1 ฟอง
เย็น : แกงจืดวุ้นเส้น + ส้ม 1 ลูก


วันที่ 8
เช้า : ซุปฟักทอง + ฝรั่ง 1 ลูก
กลางวัน : สุกี้แห้ง + น้ำผลไม้ปั่น
เย็น : ไข่เจียวชะอม + น้ำพริกกะปิ + ผักต้ม + ข้าวกล้อง


วันที่ 9
เช้า : น้ำเต้าหู้ใส่ธัญพืช + ขนมปังโฮลวีท
กลางวัน : ส้มตำ + ข้าวเหนียว 1 ห่อ
เย็น : ไข่ต้ม 2 ฟอง + ผักต้ม




วันที่ 10
เช้า : สลัดผัก + ทูน่า
กลางวัน : ยำเห็ดรวมมิตร + มะละกอ ½ ลูกเล็ก
เย็น :  อกไก่ผัดกระเพรา + ข้าวกล้อง


วันที่ 11
เช้า : ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น + ชาร้อนไม่ใส่น้ำตาล 1 แก้ว + ส้ม 1 ลูก
กลางวัน : ส้มตำ + ข้าวเหนียว 1 ห่อ
เย็น : ผักต้ม + น้ำพริก + ไข่ต้ม 1 ฟอง


วันที่ 12
เช้า : ไข่ลวก 1 ฟอง+ แฮม 1 แผ่น + กล้วย 1 ลูก
กลางวัน : อกไก่ผัดพริกขิง + ข้าวกล้อง
เย็น : ต้มจืดวุ้นเส้นใส่ผักกาดขาว



วันที่ 13
เช้า : ไข่กวน2 ฟอง + ขนมปังโฮลวีท 1 แผ่น
กลางวัน : เส้นบุกผัดบล็อกโคลี่หมูสับ + กีวี่ 1 ลูก
เย็น : ยำไข่ต้ม + แอปเปิ้ล 1 ลูกเล็ก


วันที่ 14
เช้า : ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
กลางวัน : มะระผัดไข่ + ข้าวกล้อง
เย็น : แกงจืดเต้าหู้หมูสับ


วันที่ 15
เช้า : คอนเฟลคใส่นมจืดพร่องมันเนย 1 ถ้วย + โกเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน : ต้มจืดไข่น้ำ
เย็น : ต้มจับฉ่าย + ข้าวกล้อง

Tips
- ลองทำกับข้าวทานเอง เพราะเราจะสามารถกำหนดปริมาณการใส่เครื่องปรุงและการใส่น้ำมันได้
  (อย่าลืมว่าทุกเมนูที่ต้องผัด ให้ใส่น้ำมันนิดเดียวเท่านั้น! หรืออาจใช้วิธีปรุงสุกด้วยวิธีอื่นอย่าง
  ต้ม นึ่ง หรือย่างแทน เพราะไม่ต้องใช้น้ำมัน ) ที่สำคัญเราจะเลือกแต่ของที่มี
  คุณภาพมาใช้ แถมยังอร่อยถูกปากอีกด้วย
- ต้องลดปริมาณข้าว แต่ก่อนเคยทานข้าวพูนจาน ตอนนี้ให้ลดลงเหลือครึ่งทัพพีก็พอ
- บอกลาขนมหวานและเครื่องดื่มหวานๆ อย่างเด็ดขาด
- พยายามให้ในอาหารทุกจานที่เรากินมีส่วนประกอบของผักด้วย และใน 1 วันต้องไม่ลืมที่จะรับ
  ประทานผลไม้ด้วย
- ห้ามงดคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนเด็ดขาด เพราะร่างกายยังต้องการพลังงาน ถ้าไม่รับประทาน
  โปรตีน จะเอาแรงที่ไหนไปเรียนหนังสือ
- ถ้าเป็นไปได้ให้ออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย อาจวิ่งซัก 45 นาที 3-4 วันต่อ 1 สัปดาห์
- กำหนดปริมาณอาหารให้น้อยลง ทำแบบนี้ไปซัก 1 เดือน ร่างกายจะเริ่มชิน และไม่หิวมากเท่า
  ช่วงแรกๆ
- ใน 1 สัปดาห์ อาจให้รางวัลตัวเองได้ทานตามใจปากได้ 1 เมนูต่อ 1 ครั้ง (แต่อย่าให้รางวัลตัว
  เองบ่อยเกินไปนะ ไม่งั้นไม่ได้ลดความอ้วนแน่ๆ)
- ช่วงมื้อกลางวัน สาวๆ อาจทานอาหารได้ปกติ แต่ให้ลดปริมาณข้าวลง และเลี่ยงเมนูของ
  ทอดต่างๆ 
- อย่าท้อ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความผอมอยู่ที่นั่น! ที่สำคัญคืออย่าผอมอย่างเดียว ให้คำนึง
  ถึงสุขภาพร่างกายที่ดีด้วย!

สาวๆ คนไหนที่กำลังอยากลดความอ้วน อย่าลืมเอาเมนูเหล่านี้ไปลองใช้กันดูนะครับ อาจปรับเปลี่ยนเมนูได้ตามความเหมาะสม ที่สำคัญคืออย่าลืมรับประทานผลไม้ทุกวันด้วยล่ะ 

#ยาสมุนไพรกำจัดไฝขี้แมลงวันกระติ่งเนื้อตาปลาbylilyshop43
Cr.http://www.dek-d.com/nugirl/36710/