ทุกๆ ปี ชาวอเมริกันจะเสียค่าใช้จ่ายไปกับโปรแกรมและผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักมากกว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ถึงอย่างนั้นรูปร่างของชาวอเมริกันตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมากลับมีอัตราส่วนของน้ำหนักที่เกิน และมีรูปร่างที่อ้วนเกินมาตรฐาน เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
และในวันนี้มีประชากรชาวอเมริกันกว่า 75% ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน นำไปสู่การมีรูปร่างที่อ้วน และอ้วนมากจนเกินไป
Jon Gabriel เป็นหนึ่งคนที่พยายามลดน้ำหนักด้วยความช่วยเหลือของแพทย์และการควบคุมอาหาร แต่เขาสามารถคุมน้ำหนักของตัวเองได้ถึงแค่ปี 2001 เท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็มีน้ำหนักตัวมากกว่า 400 ปอนด์เลยทีเดียว
หลังจากนั้นเขาก็ยอมแพ้แก่เรื่องนี้..
เขาล้มเลิกที่จะลดน้ำหนัก และเขาก็ไม่นับแคลอรี่อีกต่อไป แต่ไม่น่าเชื่อว่า เขาจะสามารถขจัดน้ำหนักตัวออกไปได้มากถึง 220 ปอนด์
แล้วเขาทำมันได้อย่างไร? เพราะแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การนับแคลอรี่และรูปลักษณ์ภายนอก เขากลับมุ่งเน้นไปที่การดูแลสุขภาพของตัวเอง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ ว่าแต่เอ๊ะ! แล้วเขาดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างไร? มันจะเหมือนกับที่ทุกคนคิดหรือเปล่า เราไปหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ
เรามาเริ่มต้นดูแลสุขภาพของตัวเองกันเถอะ!
1. การทานอาหาร
คุณเคยได้ยินมั้ยว่า “คาร์บทั้งหมดไม่สามารถสร้างความพอดีให้กับร่างกายของคุณได้” มันคือความจริงค่ะ
และในขณะที่คุณคิดที่จะตัดอาหารมื้อใหญ่ออกครึ่งหนึ่ง โดยหวังว่านี่อาจจะช่วยให้คุณเผาผลาญน้ำหนักได้ดี แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันเท่าไรนัก หากคุณกำลังรับประทานอาหารขยะด้วยจำนวนเพียงเล็กน้อย
ไม่จำเป็นว่าจะต้องทานอาหารจนอิ่ม แต่ให้เน้นทานอาหารเพื่อสุขภาพ จะช่วยให้ร่างกายของคุณทำงานได้อย่างที่มันควรจะเป็น และน้ำหนักของคุณก็จะลดลงได้อย่างเองเป็นธรรมชาติ
2. รักษาระบบการย่อยอาหารของคุณ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีน้ำมันหรืออะไหล่..มันก็จะทำให้รถคันนั้นใช้งานไม่ได้ เรากำลังจะบอกว่า มันจะดีที่สุดถ้าสมรรถนะของรถคันนั้นมันพร้อมใช้งาน
ร่างกายของคุณก็ไม่ได้แตกต่างกัน มันต้องการแบคทีเรีย ต้องการให้กลไกการทำงานต่างๆ ภายในร่างกายใช้งานได้ดี รวมไปถึงระบบย่อยอาหารที่จะทำให้ส่วนประกอบอื่นๆ ภายในร่างกายของคุณครบสมบูรณ์
หลีกเลี่ยงการทานแอลกอฮอล์ ของทอด และโซดา แล้วเลือกทานอาหารที่ช่วยปรับปรุงระบบการย่อยอาหาร อย่างเช่น คีเฟอร์ กะหล่ำปลีดอง และถั่วเหลืองหมัก เพื่อให้กระเพาะอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพ
3. นอนหลับ
การอดนอนเป็นปัญหาหลักที่มีผลกระทบมากกว่าอารมณ์ เพราะมันมีผลกระทบต่อสุขภาพและน้ำหนักของคุณด้วยนี่สิ!! หากคุณนอนไม่เพียงพอ ระดับคอร์ติซอลในร่างกายของคุณก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
หากคุณสร้างการต้านอินซูลิน มันก็จะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดของคุณให้สูงขึ้นไปในระดับที่มีความเสี่ยง แน่นอนค่ะว่า สิ่งนี้จะนำไปสู่การเกิดโรคอ้วน
4. ดูแลสุขภาพจิตของคุณ
ทราบหรือไม่ว่าผู้ที่ทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้า และมีความวิตกกังวลมากๆ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วน!
สิ่งที่สำคัญมากๆ คือไม่เพียงแค่ดูแลร่างกายของคุณเท่านั้น แต่ต้องดูแลสภาพจิตใจของตัวเองให้ดีเช่นกัน การออกกำลังกายหรือคุมอาหารก็ไม่สามารถช่วยได้ค่ะ ถ้าคุณไม่ลุกออกจากเตียงแล้วหาอะไรทำ
ลองออกไปหาอะไรทำ อย่างเช่น เล่นโยคะ ไปค่ายอาสา หรือไปเข้ารับคำปรึกษา บางทีคุณอาจจะค้นพบทางออกหรือเจอเป้าหมายใหม่ๆ ในชีวิต ทำให้ชีวิตนี้มันมีคุณค่า: )
5. ดีท็อกซ์บ้างเป็นบางครั้ง
คุณอาจไม่ได้ตระหนักถึงสารพิษจำนวนมากมายในชีวิตประจำวันที่มาจากอุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อมกันใช่มั้ยคะ มีนักวิจัยพบว่ามีสารพิษจำนวนมากมายสามารถทำลายระบบภายในร่างกายของคุณ รวมถึงกลไกการเผาผลาญน้ำหนักด้วย
ในขณะที่การซื้อและทานอาหารออแกนิค เป็นการเริ่มต้นที่จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดี แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าอาหารแบบนี้จะไม่มีสารพิษ
คุณควรดีท็อกซ์เป็นประจำ โดยอาจจะเริ่มต้นดื่มน้ำอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน แล้วก็บริโภคอาร์ติโชก หน่อไม้ฝรั่ง อโวคาโด้ และบีท
สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นหมั่นดูแลสุขภาพของคุณให้ดีจากภายในอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกายหรือสุขภาพจิต เมื่อคุณมีสุขภาพที่ดี มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้น้ำหนักของคุณลดลง
Cr.http://www.akerufeed.com/health/5-steps-for-long-term-sustainable-weight-loss
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น