เมนูอาหารลดน้ำหนักต้องเลือกกินอาหารคลีนอย่างเดียวซะที่ไหน ของกินใกล้ตัว 9 เมนูนี้ก็กินแล้วไม่อ้วน เพราะเป็นอาหารแคลอรีต่ำ
วิธีลดน้ำหนักให้ได้ผลต้องทำควบคู่กันไปทั้งควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทว่าการควบคุมอาหารนี่แหละที่ยากเหลือเกิน อย่างน้อย ๆ อาหารที่วางขายใกล้ออฟฟิศหรือตลาดแถวบ้านก็ดูเป็นอาหารพาอ้วนไปซะหมด เอ้า ! แต่ถ้ายังอยากมีความสุขกับการกินโดยไม่ต้องกลัวอ้วนเชิญทางนี้ คุณโด-D-โด้ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มี 9 เมนูพลังงานต่ำ อร่อยล้ำแถมหากินง่าย ๆ มาฝากให้ลองทำตามกันดู ซึ่งเขาคนนี้ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รอบตัวรายล้อมไปด้วยร้านอาหารตามสั่งข้างทางที่ทุกเมนูล้นไปด้วยความมันเยิ้ม ร้านกาแฟเจ้าประจำที่อัดแน่นทั้งน้ำตาล ครีมเทียม นมข้น ดื่มแล้วชื่นใจแต่รับแคลอรีไปเต็ม ๆ เฮ้อ ! ในเมื่อของกินใกล้ตัวล้วนแต่ชวนอ้วนซะขนาดนี้ เราเองคงต้องมาคัดสรรเมนูอาหารแคลอรีต่ำด้วยตัวเองซะแล้วล่ะ
จั่วหัวด้วย 9 เมนูแคลอรีต่ำก่อน
1. ปลาเผา 150 กิโลแคลอรี
2. ส้มตำ 35 กิโลแคลอรี
3. ไก่ย่าง (เนื้อส่วนอก สะโพก ไม่หนัง) 160 กิโลแคลอรี
4. โจ๊กหมู 160 กิโลแคลอรี
5. เกาเหลา 230 กิโลแคลอรี
6. ยำวุ้นเส้น 120 กิโลแคลอรี
7. กระเพาะปลา 250 กิโลแคลอรี
8. หมูมะนาว 150 กิโลแคลอรี
9. แกงส้ม 105 กิโลแคลอรี
ผมเคยเขียนเกี่ยวกับการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่บ้านไปแล้ว วันนี้ขอเขียนเกี่ยวกับของกินบ้าง การจะลดน้ำหนักเนี่ย 70% อยู่ที่ "ของกิน" นะครับ ย้ำอีกครั้ง!! การจะลดน้ำหนัก 70% อยู่ที่ของกิน !!! ออกกำลังกายนั้นแค่ 30% เท่านั้น แต่ !!! ผมไม่ได้บอกว่าออกกำลังกายไม่สำคัญนะครับ มันก็สำคัญนั้นแหละ เพราะมันช่วยให้ร่างกายแข็งแรงครับผม
ความจริงวันนี้คือ !!! ไม่ต้องเลือกครับ...ทำให้หมดทุกอย่างทั้งดูแลอาหารและออกกำลังกาย คราวนี้แข็งแรงและหุ่นดีแน่นอน
ต่อครับเรื่องอาหาร ถ้าเราทำอาหารคลีนหรือสั่งอาหารคลีนมากินเองได้ทุกมื้อมันก็ดีครับ น้ำหนักก็ลงเร็วหน่อยเพราะอาหารคลีนนั้นพลังงานต่ำอยู่แล้ว ส่วนมากจะอยู่ที่ 300-400 กิโลแคลอรีต่อกล่อง แต่ถ้าคนที่ทำไม่ได้ล่ะ (คนส่วนมากซะด้วย) ด้วยชีวิตชาวเมืองที่ต้องแข่งกับเวลา (ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ฮ่าาาา) อาจจะต้องบังคับตัวเองนิดนึงที่จะตื่นเช้ามาปรุงเอง หรือต้องเพิ่มเงินสั่งอาหารคลีนมาทาน เนื่องจากอาหารคลีนต้องมีค่าใช้จ่ายในการส่งจึงต้องสั่งมาทีละหลาย ๆ กล่อง สั่งมาเราก็ต้องแช่ตู้เย็นไว้ 3-5 วันแล้วค่อยเอามาเวฟกิน บางคนอาจจะไม่สะดวกทำ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวจากที่เคยลองทำนะครับ) ถ้าใครทำได้ผมยินดีด้วย ทำต่อไปครับหุ่นดีแน่นอน
กินอาหารคลีนทุกมื้ออย่าลืมเติมไขมันดีเข้าร่างกายด้วยนะครับ ร่างกายต้องการไขมันอยู่พอสมควรเลย เช่น ปลาแซลมอน น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก ฯลฯ
เข้าเรื่องการสั่งของกินกันดีกว่า !!! แถวออฟฟิศเรามีอะไรกินบ้าง...
อาหารตามสั่งร้านป้าข้างออฟฟิศก็อื้อหือ...มันเยิ้มมาเชียว ทุกเมนูเลย จะมันอะไรขนาดน้านนนน หมูแดงหมูกรอบแสนอร่อย ฮ่าาา ข้าวหน้าเป็ด ข้าวมันไก่ หมกไก่ มาให้หมด ผมเองก็ชอบนะครับไม่ใช่ไม่ชอบ (ทุกวันนี้ก็ยังกินอยู่ แต่นาน ๆ ทีไม่ใช่ทุกวัน อิอิ)
กาแฟเย็นก็นะ...เห็นตอนชงแล้วน้ำตาจิไหล นี่ฉันกินอะไรกันอยู่ น้ำตาลทราย 2 ช้อนพูน ครีมเทียมซัดมาอีก 2 ช้อน ต่อด้วยนมข้นหวานรวมกันเกือบเต็มแก้ว และรินน้ำกาแฟไปหน่อยนึง คน ๆๆๆๆๆ ใส่แก้วกินได้แล้วจร้าาาาาาาา
มาเรียงลำดับประเภทของการปรุงที่ให้พลังงานมากไปหาน้อยกันดีกว่า
ทอด > ผัด > ย่าง > ต้ม > นึ่ง
ถ้าจะลดน้ำหนักโฟกัสไปที่ต้มกับนึ่งเลยครับ ช่วยได้เยอะ (มากด้วย) เพราะพลังงานต่ำกว่าทอดอยู่เยอะเฟร่อออ และตามสไตล์ผมนะครับจะเดินทางสายกลางไม่ตึงเกินไปและก็ไม่หย่อนเกินไป
วิธีการสั่งของกินให้ได้พลังงานน้อยลง
เมนูต้ม&นึ่ง สำหรับผมส่วนเกินของเมนูต้มก็คือ...กระเทียมเจียวนั่นเอง !!!
เพียงแค่เราบอกแม่ค้าว่าไม่เอากระเทียมเจียวเท่านี้ก็ตัดพลังงานที่ไม่จำเป็นออกไปประมาณ 50-100 กิโลแคลอรีแล้วครับ แค่นี้เองง่ายใช่ไหมเล่า (ต้องสั่งบ่อย ๆ ให้ชินนะครับ เพราะแรก ๆ เราจะลืมสั่งประจำ ผมก็เป็น 555)
หลีกเลี่ยงไขมันในมื้ออาหารนั้น ๆ เช่น
ขาหมูไม่เอามัน เอาแต่เนื้อกับไข่ ตัดพลังงานได้ 100-200 กิโลแคลอรี แต่ถ้าใจรักจริง ๆ ก็บอกเอามันน้อยหน่อยเน้นเนื้อก็ยังดี
ข้าวมันไก่ไม่เอาหนัง หรือถ้าสายโหดขึ้นไปอีกบอกเอาข้าวมันครึ่งเดียว ใส่ข้าวธรรมมาดาครึ่งนึง (แม่ค้าจะหันมามองหน้า ให้เราส่งยิ้มหวานคืนไปทีนึงครับ ^_^)
จากข้าวหมูกรอบเป็น หมูกรอบครึ่งนึงหมูแดงครึ่งนึง (ไม่ใช่ใส่หมูกรอบมา 1 หน่วยและหมูแดง 1 หน่วยนะ ให้แบ่งหมูมาอย่างละครึ่งหน่วย ฮ่าาา) งงไหมน้อ
ก๋วยเตี๋ยวไก่หรือเป็ด เขี่ยส่วนหนังออก ลำบากไปนิดนึง แต่ถ้าทำได้เราจะเหลือโควต้าไปกินอย่างอื่นได้แทนนะครับ
เครื่องดื่มที่หวาน ๆ ทุกชนิด
พูดให้ติดปากเลยนะครับ "หวานน้อย" หรือ ไม่เอาน้ำตาล (สำหรับสายโหด ตอนนี้ผมมาขั้นนี้ได้แล้ว ฮ่าาา)
กาแฟเย็นเนี่ยตัวดีเลย ผมกินทุกวัน ชอบกินเพราะรสชาติและกลิ่นของมัน เมนูโปรดผมคือ Espresso No Sugar เมนูอื่นก็เช่นกัน ชาเขียว ชาไทย กาแฟ โกโก้ ช็อกโกแลต พวกนี้จริง ๆ ตัวมันเองให้พลังงานต่ำมาก !!! แต่ที่เราอ้วนก็เพราะน้ำตาล นมข้นหวาน ครีมเทียมที่ใส่มาพร้อมพวกมันครับ ถ้าจะลดน้ำหนักสั่งไปเลย "หวานน้อย" จะตัดพลังงานออกไปได้ 100-200 กิโลแคลอรีนะครับ
ท่องไว้เลยนะครับ "ไม่เจียว" "หวานน้อย" คาถาลดน้ำหนัก ฮ่าาา
คราวนี้มาไล่เรียง 9 เมนูแคลอรีต่ำกันชัด ๆ
1. ปลาเผา 150 กิโลแคลอรี
ปลาเผาตัวนึงพลังงานประมาณ 150 กิโลแคลอรีนะครับ เจ้าปลาเผาเนี่ยไขมันน้อยมาก...ส่วนมากในตลาดจะเป็นปลานิล ปลาทับทิม ทานกับผัก น้ำจิ้มซีฟู้ดพลังงานต๊ำ ต่ำ ถ้าทานเป็นเมี่ยงด้วยก็จะมีผักเยอะหน่อยดีนะครับ ถ้ารู้สึกไม่อยู่ท้องก็เติมเส้นขนมจีนหรือข้าวสวยไปสักนิดก็ได้ครับ +พลังงานมาอีกประมาณ 100 กิโลแคลอรี พอรับไหวครับผม อัดผักเข้าไปเยอะ ๆ อิ่มอยู่ท้องแน่นอน ^_^
2. ส้มตำ 35 กิโลแคลอรี (ต่อจานนะจ๊ะ ไม่ใช่ถาด ฮ่าาา)
เมนูยอดฮิตของสาว ๆ ชอบกันเหลือเกิน พลังงานต่ำเวอร์ครับ เพราะส่วนผสมเนี่ยมีแค่มะละกอกับเครื่องปรุงรส ไขมันนี่เรียกได้ว่าไม่มีเลย ถ้ารู้สึกไม่อยู่ท้อง (ซึ่งไม่อยู่แน่นอน ใครจะไปอิ่มเล่า) สาว ๆ จะสั่งใส่ขนมจีนมาด้วยก็ได้ ผมจำไม่ได้ว่าเรียกว่าตำอะไร ผมกินเผ็ดไม่ค่อยเก่งเลยไม่แตะเลยเมนูนี้ 555 +เส้นขนมจีนก็ไม่ถึง 100 กิโลแคลอรีหรอกครับ เมนูนี้เด็ดมากเอาใจสาว ๆ กันเลยทีเดียว ถ้าเป็นตำไทยจะใส่น้ำตาลปี๊บหวาน ๆ มาหน่อยแต่ก็ไม่เยอะครับ ยังไงเมนูนี้ไม่เกิน 100 กิโลแคลอรีอยู่แล้วสบายใจได้ครับผม
ป.ล.ระวังแคปหมูที่ชอบจัดชุดกันมานะครัช ตัวแสบเลยล่ะ เคี้ยวกันกรุ๊บกรั๊บอร่อยกันเลยทีเดียวเชียว
3. ไก่ย่าง (อก สะโพก ไม่หนัง) 160 กิโลแคลอรี
มาต่อด้วยเมนูนี้ จัดชุดกันมากับส้มตำได้เลยครับ เอาหนังออกเนี่ยพลังงานไม่เยอะครับประมาณ 160 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง ถ้าติดหนังมาด้วยนี่ก็ 200++ กิโลแคลอรีครับผม จริง ๆ แล้วอาหารที่พลังงานเยอะมันเยอะมาจากน้ำมัน หรือไขมันสัตว์นั่นเอง ถ้าได้อ่านวิธีการสั่งด้านบนมาแล้วจะรู้ครับผม
4. โจ๊กหมู 160 กิโลแคลอรี
เมนูนี้ผมทานบ่อยมาก ช่วงเลิกงานร้านข้างออฟฟิศ เรียกได้ว่าแค่เดินไปนั่งที่โต๊ะไม่ต้องสั่งกันเลยทีเดียวเชียว หันขวาไปส่งยิ้มหวานทีนึง แม่ค้าทำแล้วเอามาเสิร์ฟตรงหน้าได้เลย ฮ่าาา ของผมจะเพิ่มไข่ลวกด้วย 1 ฟอง+ไปอีก 70 กิโลแคลอรี รวมแล้วก็แค่ 230 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง สบาย ๆ ครับเมนูนี้หายห่วง ๆ
ป.ล.หมูสับบางร้านผสมไขมันมาค่อนข้างเยอะต้องดูนิดนึงครับ แต่รวม ๆ แล้วก็ไม่เกิน 200 กิโลแคลอรีหรอกครับสำหรับโจ๊กกับหมูสับ (ร้านไหนหมูสับอร่อย ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเค้าใส่ไขมันมาเยอะแน่นอน ฮ่าาาา)
ป.ล.2 ระวัง !!! ปลาท่องโก๋ ไม่ว่ามันจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่มันโหดร้ายทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่พลังงานสูง ไขมันมันยังมหาศาลอีกด้วยยยยย เป็นห่วงนะครับ
5. เกาเหลา 230 กิโลแคลอรี
ถ้าไม่ใส่กระเทียมเจียวเนี่ยไม่ถึง 200 กิโลแคลอรีด้วยซ้ำไป เพิ่มข้าวประมาณ 80-100 กิโลแคลอรี สบาย ๆ ครับเมนูนี้อยู่ท้องด้วย ผมจะชอบสั่งว่าพิเศษเพิ่มเนื้อสัตว์ไม่เอากระเทียมเจียว มื้อเย็นเนี่ยอิ่มสบายท้องครับผม ถ้าเราไม่ได้ชอบทานลูกชิ้นเป็นการพิเศษ ผมแนะนำว่าให้สั่งว่าเอาแต่เนื้อสัตว์ครับ จะได้โปรตีนเต็ม ๆ ลูกชิ้นมีผสมแป้งมาด้วย ถ้าเราลดน้ำหนักอยู่ตัดแป้งมื้อเย็นได้จะดีมากครับผม
6. ยำวุ้นเส้น 120 กิโลแคลอรี
ที่สุดแห่งเส้นคือวุ้นเส้นนั่นเอง จุดเด่นของวุ้นเส้นไม่ใช่พลังงานต่ำอย่างเดียวนะครับ ผมมองว่าจุดเด่นมันคือความอืด 5555 เวลาโดนน้ำมันพอง ทานช้า ๆ มันจะอิ่มง่ายมันไปอืดในท้อง อิอิ ด้วยวิธีการปรุงนั้นเอาไปลวกแล้วเอามายำ ไขมันน้อยมาก ส่วนมากไขมันของเมนูนี้คือ หมูสับนั่นเอง รวม ๆ แล้วพลังงานน๊อยน้อยนะครับผม จัดมื้อเย็นได้สบาย ๆๆๆๆ
7. กระเพาะปลา 250 กิโลแคลอรี
เมนูนี้น่าจะเป็นเมนูที่พลังงานสูงที่สุดใน 9 เมนูนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่เกิน 300 กิโลแคลอรีอยู่ดี ทานมื้อเย็นได้สบ๊าย สบาย ถ้าไม่เอาเส้นหมี่พลังงานลดลงอีกนะครับ แต่ถ้ากลัวไม่อยู่ท้องใส่ไปก็ได้ครับ ปกติก็ไม่ได้ใส่เยอะอยู่แล้ว ถ้าอยากตัดพลังงานออกอีกให้ไม่ทานหนังไก่ในนั้นดีกว่า ส่วนมากจะชอบมีไหล่ไก่มา เราจะได้รับพลังงานเพิ่มจากหนังไก่ตรงนี้นี่แหละครับท่านผู้ชมมมมม
8. หมูมะนาว 150 กิโลแคลอรี
มาดูเป็นกับข้าวกันบ้าง พลังงานนี้เฉพาะกับข้าวเด้อ ถ้าเพิ่มข้าวก็+พลังงานจากข้าวเพิ่มไปด้วยน้าา เมนูนี้ผมชอบนะครับ โปรตีนเน้น ๆ จากเนื้อหมูลวก แล้วเอามาปรุงเปรี้ยว ๆ อร่อยดีแทบจะไม่มีไขมันเลย อาจจะมีบ้างจากชิ้นส่วนของหมู ไม่เยอะครับเพราะมันไหลออกไปกับน้ำตอนลวกแล้วบ้างบางส่วน สบาย ๆ ครับจัดไปเต็มที่
9. แกงส้ม 105 กิโลแคลอรี
เมนูสุดท้าย!!!! แกงส้มนั่นเอง ผักล้วน ๆ รสชาติเปรี้ยวอร่อย ๆ พลังงานน้อยเว่อร์+ข้าวได้ครับจะได้อยู่ท้อง ข้อควรระวังในเมนูนี้ก็คือ "แกงสมชะอมทอดไข่" 5555 ไข่ทอดเนี่ยตัวดีเลยครับ ตัวมันเองอมน้ำมันมากกกกก ถ้าเป็นแกงส้มผักธรรมดากับกุ้งเนี่ยครับดี สุดพลังงานต่ำครับผมจัดปายยยย
แถม!!! ข้าวสวย 80 กิโลแคลอรี (1 ทัพพี)
อาหารที่อยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนาน สำหรับบางคนเรียกได้ว่าถ้าไม่ได้กินข้าวจะรู้สึกไม่อิ่ม (จริง ๆ เราคิดไปเองครับอันนี้ เป็นจิตวิทยา) ด้านบนจะมีเมนูกับข้าวอยู่ ถ้ากินกับข้าวสวยก็เพิ่มพลังงานเข้าไป และเรื่องปริมาณในการคำนวณพลังงานเนี่ย เป็นเรื่องที่ปวดสมองมาก...เพราะว่าที่บ้านแต่ละคนขนาดทัพพีไม่เท่ากันเลยคำนวนยาก ถ้าอยากให้เห็นภาพ คิดถึงข้าวถ้วยกระป๊อกตามตลาดนัดครับ ก้อนเล็ก ๆ นั่นนับเป็น 1 ทัพพีครับผม ให้พลังงานประมาณ 80 กิโลแคลอรี ซึ่งเหล่าชายชาตรีอย่างเรามี 2-3 แน่นอนครับผมถึงจะอยู่ท้อง ถ้าจะเอาให้ง่ายกว่านั้นอีกบางคนหุงข้าวเอง 1 ทัพพีประมาณ 4 ช้อนสั้นพูน ๆ ครับผม ข้าวหนึ่งจานก็จะประมาณ 100-200 กิโลแคลอรีครับผม
เรื่องตัวเลขพลังงานเนี่ยผมอยากให้เราดูเป็นแนวทางนะครับ ดูให้รู้ว่าเรากำลังกินอะไรอยู่ อย่าไปยึดติดมากเดี๋ยวจะกลายเป็นจิตตก อันนั้นก็กินไม่ได้อันนี้ก็กินไม่ได้ ของทุกอย่างทานได้หมดครับ มันอยู่ที่ปริมาณต่างหาก ทานแต่พอดี เอาความพอดีเป็นที่ตั้งครับ อาหารคลีนที่ว่าพลังงานต่ำลองทานมื้อละ 2 กล่องดูสิครับ ก็ตกวันละ 6 กล่อง ดูซิน้ำหนักจะขึ้นไหม ฮ่าาาา
เรียนรู้วิธีการดูแลตัวเองแล้วสนุกกับมันนะครับ การเลือกทานอาหาร+กับการออกกำลังกาย ผมว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ผมเองเคยน้ำหนัก 85 หน้านี่เต็มจอเลยล่ะถ่ายรูปมาเนี่ย เรียกได้ว่าไม่กล้าเซลฟี่เลยล่ะ เลือกทานอาหารกับออกกำลังกายก็ลดน้ำหนักได้แล้วครับ แล้วลดถาวรด้วยขอบอก ไม่ต้องไปพึ่งยาลดน้ำหนักที่อันตรายด้วย...ขอให้ทุกคนโชคดีสั่งอาหารพลังงานต่ำกินกันให้หุ่นเป๊ะทุกคนนะครับ !!! #โด-D-โด้
การลดน้ำหนักไม่ใช่แค่ออกกำลังกายอย่างเดียว หรือควบคุมอาหารอย่างเดียว แต่ต้องทำควบคู่กันไปเรื่อย ๆ และที่สำคัญอย่าหมดกำลังใจหรือใจร้อนนะคะ ค่อย ๆ ดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ แล้วเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของตัวเอง อ้อ ! แล้วอย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์ไว้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับเพื่อน ๆ กันด้วยนะคะ
Cr.http://health.kapook.com/view128788.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น