เคล็ดลับความสวยของสาวเอเชีย
สาวเอเชียสวยใสไม่แพ้ชาติใดในโลก จริงๆ แล้วสาวเอเชียได้เปรียบตรงที่มีผิวละเอียดและสีเรียบเสมอกันกว่า สาวตะวันตก ดังนั้น อย่าได้แคร์ว่าฝรั่งจะมีโครงหน้าที่คมสวยกว่าเรา เพราะต่างคนต่างก็มีดี โดยเฉพาะเคล็ดลับความสวยของแต่ละประเทศในเอเชียนี้มีเยอะแยะมากมาย ถ้าอยากรู้ว่าประเทศไหนมีเคล็ดลับอะไร ไปดูกันเลย
JAPAN
กินสิ่งไหนก็ได้สิ่งนั้น
ขั้นตอนแรกเพื่อความสวยก็ต้องดูว่าเราใส่อะไรเข้าไปในร่างกายบ้าง สังเกตได้ว่าอาหารญี่ปุ่นจะดูเฮลตี้สุดๆ และมาเป็นเซ็ตเล็กๆ สาวญี่ปุ่นจะไม่กินพวกอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสักเท่าไหร่ ขนาดน้ำชาในตู้กดน้ำก็ยังหวานน้อยกว่าชาเขียวสำเร็จรูปบ้านเราถึงสองเท่า และสิ่งที่สาวๆ กินเยอะที่สุดคือปลาที่มีโอเมก้า-3 รวมไปถึงการกินอาหารเสริมอย่างคอลลาเจนอีกด้วย
อย่าได้หยุดดื่มชาเขียว
มีผลการวิจัยออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าชาเขียวมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ต้านผิวอักเสบ แล้วยังมีแอนตี้ออกซิแดนต์ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง คนญี่ปุ่นจึงพยายามผสมใบชาเขียวลงในทุกอย่างทั้งเค้กและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ยังมีความนิยมในการนำยอดใบชาเขียวหรือมัทฉะมาผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพราะเชื่อว่าในปริมาณที่เท่ากันมัทฉะมีแอนตี้ออกซิแดนต์สูงกว่าชาเขียวปกติถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
อย่ากลัวที่จะใช้ออยล์
สาวๆ ญี่ปุ่นไม่เคยกลัวที่จะใช้ออยล์ เขาบอกว่าออยล์เป็นเคล็ดลับความงามที่มีมาเนิ่นนาน ทั้งใช้บำรุงอย่างล้ำลึกและล้างเครื่องสำอาง โดยเฉพาะเหล่าเกอิชาที่จะใช้น้ำมันดอกคาเมเลียแทนน้ำ และการใช้ออยล์ยังเป็นทริกที่ขึ้นชื่อในเรื่องการต่อต้านริ้วรอยและช่วยฟื้นบำรุง นอกจากนี้ ในตำราสมัยก่อนยังใช้ออยล์บำรุงเส้นผมด้วย
นวดผิวไล่ริ้วรอย
เคล็ดลับที่ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ของคนญี่ปุ่นคือการนวดผิวเพื่อกระตุ้นและกระชับผิวให้ดูเต่งตึง โดยทาผลิตภัณฑ์บำรุงแล้วนวดคลึงบริเวณที่มีริ้วรอยหรือเริ่มมีริ้วรอย นอกจากนี้ การนวดยังทำให้เลือดสูบฉีดเพื่อช่วยให้เซลล์ผิวของเราฟื้นฟู ทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าแข็งแรงขึ้น และริ้วรอยดูจางลงด้วย
กินสิ่งไหนก็ได้สิ่งนั้น
ขั้นตอนแรกเพื่อความสวยก็ต้องดูว่าเราใส่อะไรเข้าไปในร่างกายบ้าง สังเกตได้ว่าอาหารญี่ปุ่นจะดูเฮลตี้สุดๆ และมาเป็นเซ็ตเล็กๆ สาวญี่ปุ่นจะไม่กินพวกอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสักเท่าไหร่ ขนาดน้ำชาในตู้กดน้ำก็ยังหวานน้อยกว่าชาเขียวสำเร็จรูปบ้านเราถึงสองเท่า และสิ่งที่สาวๆ กินเยอะที่สุดคือปลาที่มีโอเมก้า-3 รวมไปถึงการกินอาหารเสริมอย่างคอลลาเจนอีกด้วย
อย่าได้หยุดดื่มชาเขียว
มีผลการวิจัยออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าชาเขียวมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ต้านผิวอักเสบ แล้วยังมีแอนตี้ออกซิแดนต์ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง คนญี่ปุ่นจึงพยายามผสมใบชาเขียวลงในทุกอย่างทั้งเค้กและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ยังมีความนิยมในการนำยอดใบชาเขียวหรือมัทฉะมาผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เพราะเชื่อว่าในปริมาณที่เท่ากันมัทฉะมีแอนตี้ออกซิแดนต์สูงกว่าชาเขียวปกติถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
อย่ากลัวที่จะใช้ออยล์
สาวๆ ญี่ปุ่นไม่เคยกลัวที่จะใช้ออยล์ เขาบอกว่าออยล์เป็นเคล็ดลับความงามที่มีมาเนิ่นนาน ทั้งใช้บำรุงอย่างล้ำลึกและล้างเครื่องสำอาง โดยเฉพาะเหล่าเกอิชาที่จะใช้น้ำมันดอกคาเมเลียแทนน้ำ และการใช้ออยล์ยังเป็นทริกที่ขึ้นชื่อในเรื่องการต่อต้านริ้วรอยและช่วยฟื้นบำรุง นอกจากนี้ ในตำราสมัยก่อนยังใช้ออยล์บำรุงเส้นผมด้วย
นวดผิวไล่ริ้วรอย
เคล็ดลับที่ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ของคนญี่ปุ่นคือการนวดผิวเพื่อกระตุ้นและกระชับผิวให้ดูเต่งตึง โดยทาผลิตภัณฑ์บำรุงแล้วนวดคลึงบริเวณที่มีริ้วรอยหรือเริ่มมีริ้วรอย นอกจากนี้ การนวดยังทำให้เลือดสูบฉีดเพื่อช่วยให้เซลล์ผิวของเราฟื้นฟู ทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าแข็งแรงขึ้น และริ้วรอยดูจางลงด้วย
KOREA
มาส์กหน้าเป็นว่าเล่น
เคล็ดลับของสาวเกาหลีคือการมาส์กหน้า สังเกตได้จากร้านขายเครื่องสำอางที่มักจะมีแผ่นมาส์กหน้าขายเยอะแยะทั้งแพงและถูก หลังล้างหน้าเสร็จ ก็มาส์กหน้าทิ้งไว้สัก 10 นาที (ห้ามทิ้งไว้ข้ามคืนนะ) จากนั้น เอาแผ่นมาส์กออกแล้วค่อยๆ นวดให้สารบำรุงซึมเข้าสู่ผิว พร้อมที่จะลงครีมหรือเซรั่มบำรุงอื่นๆ ได้ต่อ แต่นอกจากช่วงเวลาก่อนนอนแล้ว เวลาไหนก็สามารถมาส์กได้นะ นอกจากนี้ ยังมีมาส์กเฉพาะจุดอย่างมาส์กใต้ตาหรือปากมาให้ได้ใช้อีกด้วย
ผลักน้ำลงผิว
คนเกาหลีมีความเชื่อเรื่องการเติมน้ำให้ร่างกาย เพราะจะมีผลต่อความชุ่มชื้นของผิวอย่างมาก ดังนั้น ทุกเช้าสาวเกาหลีจะตื่นขึ้นมาและดื่มน้ำแก้วใหญ่หนึ่งแก้ว พร้อมฉีดพ่นน้ำเย็นใส่ใบหน้าประมาณ 2-3 นาทีจนฉ่ำไปหมด แถมยังเน้นอาหารไม่เค็มเพื่อหลีกเลี่ยงโซเดียมซึ่งเป็นตัวการดูดน้ำออกจากร่างกาย
ใช้เกือบ 20 ตัว
มีผลการสำรวจในเกาหลีใต้ค้นพบว่า ผลิตภัณฑ์ของเกาหลีทุกวันนี้ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยคุณสมบัติเด่นในการให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิวจึงมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้อย่างหลากหลายตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยผลการสำรวจพบว่าสาวเกาหลีหนึ่งคนจะใช้ผลิตภัณฑ์ความงามประมาณ 20 ตัวในหนึ่งวัน
มาส์กหน้าเป็นว่าเล่น
เคล็ดลับของสาวเกาหลีคือการมาส์กหน้า สังเกตได้จากร้านขายเครื่องสำอางที่มักจะมีแผ่นมาส์กหน้าขายเยอะแยะทั้งแพงและถูก หลังล้างหน้าเสร็จ ก็มาส์กหน้าทิ้งไว้สัก 10 นาที (ห้ามทิ้งไว้ข้ามคืนนะ) จากนั้น เอาแผ่นมาส์กออกแล้วค่อยๆ นวดให้สารบำรุงซึมเข้าสู่ผิว พร้อมที่จะลงครีมหรือเซรั่มบำรุงอื่นๆ ได้ต่อ แต่นอกจากช่วงเวลาก่อนนอนแล้ว เวลาไหนก็สามารถมาส์กได้นะ นอกจากนี้ ยังมีมาส์กเฉพาะจุดอย่างมาส์กใต้ตาหรือปากมาให้ได้ใช้อีกด้วย
ผลักน้ำลงผิว
คนเกาหลีมีความเชื่อเรื่องการเติมน้ำให้ร่างกาย เพราะจะมีผลต่อความชุ่มชื้นของผิวอย่างมาก ดังนั้น ทุกเช้าสาวเกาหลีจะตื่นขึ้นมาและดื่มน้ำแก้วใหญ่หนึ่งแก้ว พร้อมฉีดพ่นน้ำเย็นใส่ใบหน้าประมาณ 2-3 นาทีจนฉ่ำไปหมด แถมยังเน้นอาหารไม่เค็มเพื่อหลีกเลี่ยงโซเดียมซึ่งเป็นตัวการดูดน้ำออกจากร่างกาย
ใช้เกือบ 20 ตัว
มีผลการสำรวจในเกาหลีใต้ค้นพบว่า ผลิตภัณฑ์ของเกาหลีทุกวันนี้ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยคุณสมบัติเด่นในการให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิวจึงมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้อย่างหลากหลายตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยผลการสำรวจพบว่าสาวเกาหลีหนึ่งคนจะใช้ผลิตภัณฑ์ความงามประมาณ 20 ตัวในหนึ่งวัน
THAILAND
สมุนไพรไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
ไม่ว่าจะเป็นขมิ้น อัญชัน มะกรูด สารพัดอย่างที่เป็นสมุนไพร สาวไทยก็เอามาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ความงามได้หมด โดยมีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายแล้ว ลองแอบถามคุณย่าคุณยายดูว่าท่านมีสูตรความงามอะไรบ้างแล้วคุณอาจจะได้เคล็ดลับความงามแบบไทยๆ มาใช้อีกเพียบ
ผงพิเศษตราร่มชูชีพผสมมะนาว
สมัยก่อนเคล็ดลับความสวยของสาวไทยมักจะเริ่มจากลองผิดลองถูก หนึ่งในนั้นคือการใช้ผงพิเศษตราร่มชูชีพผสมมะนาวแต้มเฉพาะจุดที่เป็นสิว จะทำให้หน้าดูใสไม่แพ้สาวแดนกิมจิเลยล่ะ
น้ำมันมะพร้าว
ถึงแม้คนไทยจะไม่ได้เป็นคนคิดค้น แต่ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตน้ำมันมะพร้าวที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ และสาวๆ ชาวไทยส่วนใหญ่ก็มักจะรู้ถึงข้อดีของการใช้น้ำมันมะพร้าว ไม่ว่าจะเป็นการกินเพื่อช่วยดีท็อกซ์ หมักผมให้กลับมาดูสวยเงางาม และยังมีประโยชน์อีกมากมาย ใครที่ยังไม่มีน้ำมันมะพร้าวอยู่ที่บ้าน รีบไปหาซื้อมาเก็บไว้ได้เลย
MYANMAR
ทานาคาที่มาของความสวย
‘ผิวพม่า นัยน์ตาแขก’คำกล่าวนี้บอกเราได้ว่าผิวของสาวพม่านั้นสวยไม่เป็นรองใครเคล็ดลับของพวกเธอคือการไม่แต่งหน้าเยอะ พร้อมบำรุงด้วยธรรมชาติอย่างแป้งทานาคา ซึ่งจริงๆ แล้วคือไม้ทานาคามีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่สูงมาก นอกจากนี้ ทานาคายังช่วยป้องกันการเกิดสิวด้วยคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียและช่วยลดผดผื่นคัน ลดการเกิดจุดด่างดำและฝ้า และยังช่วยป้องกันการทำลายผิวจากรังสียูวี มีประโยชน์เยอะแบบนี้สาวพม่าถึงได้มีผิวสวยใสไร้สิวไงล่ะ
CHINA
น้ำซาวข้าวเพื่อผิวสวย
ปกติสาวๆ จะซื้อโทนเนอร์มาในราคาค่อนข้างแพง แต่สำหรับสาวจีนในสมัยก่อนจะใช้น้ำซาวข้าวทำความสะอาดหน้าแทนโทนเนอร์ เริ่มจากนำข้าวมาแช่น้ำไว้สักพักจนน้ำกลายเป็นสีขาว จากนั้น เก็บไว้ในขวดแล้วแช่ตู้เย็นได้ 3-4 วัน ส่วนเวลาใช้ก็ให้นำสำลีมาชุบแล้วเช็ดแทนโทนเนอร์เพื่อเผยผิวให้ดูสวยกระจ่างใส
ฉลาดใช้สมุนไพร
คนจีนถือเป็นหนึ่งในชาติมหาอำนาจที่มีหัวด้านการทำธุรกิจ และที่ไม่แพ้กันคือมีความรู้ด้านการใช้สมุนไพร ไม่เว้นแม้กระทั่งการใช้สมุนไพรเพื่อความงาม โดยสาวจีนเป็นที่กล่าวขานกันว่ามีผิวสวยที่สุดชาติหนึ่งในโลก สาวจีนชอบใช้สมุนไพร 3 ชนิดในการบำรุงผิวคือ Bei Qi (กันเฉ่า), Huang Qi (หวงฉี) และ Goji (โกจิ) อย่างแรกรู้จักกันดีว่าช่วยให้ผิวขาวใสและทำความสะอาดผิว หวงฉีช่วยฟื้นฟูผิวเหนื่อยล้าและดูมีอายุ ส่วนโกจิซึ่งปัจจุบันมีผสมอยู่ในครีมบำรุงทั่วโลก เชื่อว่ามีแอนตี้ออกซิแดนต์ช่วยชะลอความแก่
VIETNAM
กาแฟดําดีท็อกซ์
กาแฟเป็นผลิตภัณฑ์ฮอตฮิตอันดับหนึ่งของเวียดนาม การกินกาแฟดำทุกวันนอกจากจะช่วยในเรื่องของสุขภาพแล้ว ยังเป็นการช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ นอกจากนี้ กากกาแฟยังสามารถเอามาทำเป็นสครับขัดผิว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชวนสัมผัสได้อีกด้วย
ขาวไว้ก่อน
ไม่ต่างจากสาวไทย สาวเวียดนามก็มีความเชื่อว่าผิวขาวคือความงดงาม พวกเธอจึงใส่เสื้อผ้าคลุมตั้งแต่ต้นคอจรดปลายเท้า เรียกว่าชุด Ao Dai พร้อมใส่หมวกปีกกว้างและถุงมือ แม้จะอยู่ในสภาพอากาศเกือบ 40 องศาก็ตาม! แถมพวกเธอยังนิยมใช้ครีมกันแดดแบรนด์ดีๆ ที่อิมพอร์ตจากเมืองนอกด้วย
มาส์กหน้าหวานๆ
ในชุมชนดั้งเดิมอย่างฮอยอันยังพบว่ามีการใช้ผลไม้หลายชนิดอย่างมะละกอ มะเขือเทศ แตงโม และกล้วย บดผสมกับนมและน้ำผึ้ง เพื่อนำมามาส์กหน้าด้วย
Cr.http://women.sanook.com/43189/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น