พูดเป็นเล่นไป… สาวๆ บางคนยังเคยทิ้งเครื่องสำอางบนโต๊ะเครื่องแป้งเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
มีแต่ซื้อเพิ่มขึ้นตลอดๆ (ใครเป็นบ้าง สารภาพมาซะดีๆ)
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดี หรือถูกต้องเลยนะ เพราะ คสอ. ก็มีวันหมดอายุเหมือนกัน
และถ้าไม่ยอม “ตัดใจ” ทิ้งไป อาจจะต้องมานั่งเสียใจเพราะเกิดอาการแพ้ก็ได้น้าาา
โดยเฉพาะสกินแคร์ อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปเชียว
ไม่งั้นบำรุงแทบตาย อาจจะไม่ได้เป็นผลให้หน้าสวยขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับ POA กันค่ะ
นอกจากวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ (Expire Date) ที่ต้องดูก็เปิดใช้แล้วนั้น
เมื่อเปิดใช้ คสอ. แล้วยังต้องรู้ “อายุการใช้งาน” ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ด้วย
ว่าเมื่อเปิดใช้ครั้งแรกแล้ว สามารถใช้ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
เรียกว่า POA (Period After Opening)
POA นี้ระบุไว้บนสัญลักษณ์กระปุกเปิดฝา พร้อมตัวเลข เช่น 12m หรือ 6m
ซึ่งตัวเลขในที่นี้ก็คือจำนวนเดือนที่ผลิตภัณฑ์นั้นๆ จะยังคงมีคุณภาพที่ดี
แต่ถ้าเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่ซื้อมาไม่มี POA ระบุไว้ล่ะ!?!?
ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เรามีคำตอบเตรียมมาให้แล้ว ;)
1.เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า
ครีมหรือของเหลวประเภทรองพื้น ไพรเมอร์ คอนซีลเลอร์หรืออื่นๆ
เครื่องสำอางประเภทนี้จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี หลังจากเปิดใช้
เนื่องจากต้องผ่านการสัมผัสไม่ว่าจะด้วยมือ หรือบลัชต่างๆ
สังเกตุได้ว่าหากใช้งานไปมากกว่า 6 เดือนแล้ว เครื่องสำอางเหล่านี้อาจจะมีการตกตะกอน
หรือมีความเหนียวข้นขึ้นจากการเริ่มใช้ใหม่ๆ ซึ่งก็เป็นปฏิกิริยาทางเคมี
ที่ทำให้เครื่องสำอางเหล่านี้เกิดความเสื่อมคุณภาพลงไป
แต่ถ้าคุณสังเกตได้ว่าเครื่องสำอางของคุณมีเนื้อ มีสี หรือมีกลิ่นที่เปลี่ยนไป ก็ควรหยุดใช้ทันทีเลย!
แป้งหรือเครื่องสำอางที่มีลักษณะเป็นผง
ไม่ว่าจะเป็นแป้ง ไฮไลท์ บรอนเซอร์ บลัชออน หรืออื่นๆ
จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2 ปี หลังจากเปิดใช้เป็นครั้งแรก
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานเพราะเชื้อโรคและแบคทีเรีย ไม่สามารถเติบโตได้ดีหากขาดน้ำ
แต่อถ้าชิ้นไหนมีส่วนผสมของ aloe หรือ น้ำมัน jojoba
หากเปิดใช้ไปนานๆ สารพวก aloe และน้ำมันจะระเหยไปในอากาศ
ทำให้แป้งดูแตก เวลาทาลงไปบนผิวหน้าแล้วเนื้อแป้งไม่จับกันเรียบเนียบเหมือนตอนเริ่มใช้
ส่วนแป้งแข็งนั้นจะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า คือประมาณ 1 ปี หลังจากการใช้งานครั้งแรก
เพราะน้ำมันที่สะสมอยู่ในฟองน้ำที่ใช้ทำให้มันเสียได้ง่ายกว่า
ฉะนั้น ควรทำความสะอาดฟองน้ำอย่างสม่ำเสมอ
และแนะนำว่าหลังการใช้งานควรปิดฝาให้สนิททุกครั้งด้วย
ไม่ว่าจะเป็นแป้ง ไฮไลท์ บรอนเซอร์ บลัชออน หรืออื่นๆ
จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2 ปี หลังจากเปิดใช้เป็นครั้งแรก
สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานเพราะเชื้อโรคและแบคทีเรีย ไม่สามารถเติบโตได้ดีหากขาดน้ำ
แต่อถ้าชิ้นไหนมีส่วนผสมของ aloe หรือ น้ำมัน jojoba
หากเปิดใช้ไปนานๆ สารพวก aloe และน้ำมันจะระเหยไปในอากาศ
ทำให้แป้งดูแตก เวลาทาลงไปบนผิวหน้าแล้วเนื้อแป้งไม่จับกันเรียบเนียบเหมือนตอนเริ่มใช้
ส่วนแป้งแข็งนั้นจะมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า คือประมาณ 1 ปี หลังจากการใช้งานครั้งแรก
เพราะน้ำมันที่สะสมอยู่ในฟองน้ำที่ใช้ทำให้มันเสียได้ง่ายกว่า
ฉะนั้น ควรทำความสะอาดฟองน้ำอย่างสม่ำเสมอ
และแนะนำว่าหลังการใช้งานควรปิดฝาให้สนิททุกครั้งด้วย
2.เครื่องสำอางที่ใช้กับดวงตา
มาสคาร่า
มีอายุการใช้งานประมาณ 3 เดือน ไม่ควรเกินกว่านั้น
เพราะในหลอดมาสคาร่านั้นเป็นแหล่งเพาะตัวของพวกเชื้อโรค และแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี
และถ้านานกว่านั้น ตัวเนื้อครีมของมาสคาร่านั้นจะแห้งแตก บางครั้งถึงกับกลายเป็นผง
ทำให้เวลาปัดลงไปบนขนตาแล้วนั้นแทนที่มาสคาราจะเคลือบไปเป็นเนื้อเดียวกันกับขนตา
แต่กลับจับกับเส้นขนตาเป็นก้อนๆ บางทีเวลาแห้งแล้วก็กลายเป็นผง ตกลงมาเลอะรอบดวงตา
และอีกอย่างที่สาวๆ ควรรู้คือ ไม่ควรปั๊มมาสคารา เพราะจะดันลมเข้าไปในหลอด
ควรจะค่อยๆ หมุนขึ้นมา และปาดส่วนเกินที่ขอบด้ามแทน จะช่วยรักษามาสคาร่าได้ดีกว่า
อายไลเนอร์
สำหรับอายไลเนอร์ชนิดน้ำ หรือเจลนั้นมีอายุการใช้งาน 3 เดือนหลังจากการเปิดใช้เป็นครั้งแรก
ส่วนอายไลเนอร์แบบดินสอนั้นมีอายุการใช้งานสองปี
แต่ต้องอย่าลืมทำความสะอาดกบเหลาด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้งด้วยล่ะ
เพื่อที่แบคทีเรีย และฝุ่นละอองจะได้ไม่ไปสัมผัสกับตัวเนื้ออายไลเนอร์
อายแชโดว์
อายแชโดว์ในที่นี้หมายถึงอายแชโดว์ชนิดผงเท่านั้น ซึ่งจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 2 ปี
เนื่องจากเครื่องสำอางประเภทนี้ไม่มีส่วนผสมของน้ำ เลยทำให้พวกสิ่งแปลกปลอม หรือแบคทีเรียต่างๆ
เข้าไปเปลี่ยนแปลงตัวผลิตภัณฑ์ไม่ค่อยได้มาก
นอกเสียจากว่าจะใช้น้ำสัมผัสกับตัวเครื่องสำอาง แบบนี้จะเหลืออายุการใช้งานเพียง 6 เดือน
3.ลิปสติก
ลิปสติก และลิปกลอส
มีอายุการใช้งานหลังเปิดใช้ 2 ปี
เพราะมีทั้งครีม และของเหลวผสมอยู่ ทำให้เป็นปัจจัยในการก่อตัวของแบคทีเรียได้
หรือหากเวลาผ่านไปแล้วลิปสติกมีเนื้อที่แห้งขึ้น ไม่เป็นเนื้อครีมอีกต่อไป
ก็เท่ากับว่าลิปสติก หรือลิปกลอสแท่งนั้นได้หมดอายุการใช้งานลงแล้ว
โดยเฉพาะพวกลิปสติกสูตรติดทนนานจะยิ่งมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าปกติ
เนื่องจากมันมีส่วนผสมที่สามารถระเหยไปในอากาศในปริมาณที่มากกว่าลิปสติกทั่วไป
วิธีที่ดีที่สุดที่จะตัดสินก็คือ ควรดมกลิ่นดูว่ามันมีกลิ่นค่อนข้างฉุนแปลกไปจากเดิมหรือเปล่า
ยิ่งหากใช้นานจนมีน้ำมันออกมาแล้วล่ะก็โยนมันทิ้งไปได้เลย
และถ้าเป็นลิปกลอส เนื้อเจลอาจะเหนียวไม่เหมือนเดิม
ถ้าจะให้ดีควรหลีกเลี่ยงการทาที่ริมฝีปากโดยตรง รวมถึงการใช้นิ้วแตะแต้ม
ควรใช้พู่กันเกลี่ยเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกจากมือและริมฝีปาก
ที่เขียนขอบปาก
มีอายุการใช้งานอยู่ประมาณ 2 ปี หรือมากกว่านั้น เพราะมีส่วนผสมของของเหลวน้อย
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการทำความสะอาดและอุปกรณ์ (กบเหลา) ด้วย
4.ครีมบำรุงผิวต่าง ๆ
วิธีที่ดีที่สุดในการเก็บรักษา คือ เก็บในที่มืดอุณหภูมิปกติ ไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส
ที่บอกให้เก็บในที่มืดเพราะ สารประกอบบางตัวก็สามารถเสื่อมได้จากการถูกแสง
ครีมบำรุงรอบดวงตา
หลังจากเปิดใช้ครั้งแรก สามารถใช้ได้ไม่เกิน 6 เดือน
ด้วยความที่ครีมสำหรับดวงตานั้นเป็นครีมที่ผลิตโดยเน้นความปลอดภัย
ปริมาณสารกันเสียจึงมีน้อยกว่าในผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น อายุการเก็บรักษาก็น้อยลงไปด้วย
ครีมบำรุงผิวต่างๆ รวมทั้ง Toner และ Cleanser
หลังจากเปิดใช้แล้ว อยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี หรือจะสังเกตได้จากกลิ่น สี และเนื้อครีมที่เปลี่ยนไปจากเดิม
ว่าแล้วก็ลองเดินไปเช็คที่โต๊ะเครื่องแป้งกันดูนะคะว่า คสอ. ชิ้นไหน หมดอายุ แล้วบ้าง
อย่าเก็บไว้ค่ะ ตัดใจทิ้งไปเลย เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
ความสะอาด ความปลอดภัย และคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ (สำหรับความสวย)
เพราะฉะนั้นอย่าลืมดู POA ของ คสอ. ชิ้นโปรดด้วยนะจ๊าาา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น