ก็เพราะการสครับผิวนั้น
เป็นการทำความสะอาดได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น
พราะจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ
ที่อุดตันรูขุมขนอยู่ให้หลุดออกไป
ทำให้ผิวเนียนขึ้น กระจ่างใส
และเวลาทาครีมก็จะซึมเข้าสู่ผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น
เป็นการทำความสะอาดได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น
พราะจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ
ที่อุดตันรูขุมขนอยู่ให้หลุดออกไป
ทำให้ผิวเนียนขึ้น กระจ่างใส
และเวลาทาครีมก็จะซึมเข้าสู่ผิวได้ดีมากยิ่งขึ้น
นอกจากจะช่วยให้ผิวสะอาดแล้ว
ยังช่วยในเรื่องของการหมุนเวียนโลหิตภายใน
ให้หมุนเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวพรรณ
ของคุณดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล
ยังช่วยในเรื่องของการหมุนเวียนโลหิตภายใน
ให้หมุนเวียนได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผิวพรรณ
ของคุณดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล
แล้วสครับมีกี่ชนิด?
หลักๆ แบ่งออกเป็น 2 ชนิดค่ะ
คือสครับที่ผลิตจากธรรมชาติ
และสครับที่ผลิตจากกระบวนการทางเคมี
คือสครับที่ผลิตจากธรรมชาติ
และสครับที่ผลิตจากกระบวนการทางเคมี
1.สครับที่ผลิตจากธรรมชาติ :
เนื้อสครับจะทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ
เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช
ซึ่งเราสามารถทำเองได้
มีความปลอดภัยต่อผิว ไม่แพ้
และไม่ระคายเคือง
เนื้อสครับจะทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ
เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช
ซึ่งเราสามารถทำเองได้
มีความปลอดภัยต่อผิว ไม่แพ้
และไม่ระคายเคือง
2.สครับที่ผลิตจากกระบวนการทางเคมี :
เนื้อสครับจะทำมาจากสารสังเคราะห์
เป็นเม็ดพลาสติกเคลือบ (Micro bead)
ลักษณะเป็นเม็ดทรงกลม
สาวๆ ต้องระวังเรื่องการแพ้และระคายเคือง
มากกว่าสครับที่ผลิตจากธรรมชาตินะจ๊ะ
เนื้อสครับจะทำมาจากสารสังเคราะห์
เป็นเม็ดพลาสติกเคลือบ (Micro bead)
ลักษณะเป็นเม็ดทรงกลม
สาวๆ ต้องระวังเรื่องการแพ้และระคายเคือง
มากกว่าสครับที่ผลิตจากธรรมชาตินะจ๊ะ
แต่รู้หรือไม่? ว่าถ้าสครับผิดวิธี
ก็อาจจะส่งผลเสียที่ทำลายผิวได้ง่ายๆ นะ
ผิวมันมักจะมีปัญหารูขุมขนกว้างและสิวเสี้ยน
จึงควรเลือกสครับที่ช่วยกำจัดสิวเสี้ยน
และช่วยกำจัดคราบไขมันในรูขุมขนออกไป
สามารถสครับได้ถึง 2 ครั้งต่อสัปดาห์
แต่ไม่ควรขัดถูแรง เพราะจะทำให้รูขุมขนกว้างยิ่งขึ้น
ผิวแพ้ง่าย
คนที่มีผิวแพ้ง่ายต้องเลือกผลิตภัณฑ์
ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์
เวลาที่สครับผิวต้องทำอย่างเบามือสุดๆ
ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ค่ะ
เป็นยังไงจ๊ะ กับเคล็ดลับการสครับผิวให้สวยใส
ราวกับสาววัยละอ่อน ทำตามได้ไม่ยากใช่มั้ยล่ะ
ก็อาจจะส่งผลเสียที่ทำลายผิวได้ง่ายๆ นะ
แล้วต้องสครับยังไงถึงจะถูกวิธีล่ะ?
สาวๆ ต้องสำรวจตัวเองก่อนนะคะ
ว่าสภาพผิวของเราเป็นอย่างไร
จะได้เลือกสครับให้เหมาะกับตัวเองยังไงล่ะ
ว่าสภาพผิวของเราเป็นอย่างไร
จะได้เลือกสครับให้เหมาะกับตัวเองยังไงล่ะ
ผิวแห้ง
จริงอยู่ว่าการสครับจะยิ่งทำให้
ผิวแห้งมากขึ้นไปอีก แต่จริงๆ แล้ว
ผิวแห้งก็ต้องการ การสครับเหมือนกันค่ะ
อาจจะต้องใช้เป็นสครับที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
และต้องเป็นเนื้อสครับที่อ่อนโยน
และควรทำการสครับเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ก็เพียงพอแล้ว
ผิวมัน
จริงอยู่ว่าการสครับจะยิ่งทำให้
ผิวแห้งมากขึ้นไปอีก แต่จริงๆ แล้ว
ผิวแห้งก็ต้องการ การสครับเหมือนกันค่ะ
อาจจะต้องใช้เป็นสครับที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
และต้องเป็นเนื้อสครับที่อ่อนโยน
และควรทำการสครับเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ก็เพียงพอแล้ว
ผิวมัน
ผิวมันมักจะมีปัญหารูขุมขนกว้างและสิวเสี้ยน
จึงควรเลือกสครับที่ช่วยกำจัดสิวเสี้ยน
และช่วยกำจัดคราบไขมันในรูขุมขนออกไป
สามารถสครับได้ถึง 2 ครั้งต่อสัปดาห์
แต่ไม่ควรขัดถูแรง เพราะจะทำให้รูขุมขนกว้างยิ่งขึ้น
ผิวแพ้ง่าย
คนที่มีผิวแพ้ง่ายต้องเลือกผลิตภัณฑ์
ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์
เวลาที่สครับผิวต้องทำอย่างเบามือสุดๆ
ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ค่ะ
ผิวเป็นสิว
พยายามหลีกเลี่ยงสครับที่มีกรดธรรมชาติสูงๆ
เช่น กรด AHA และ BHA
เพราะอาจจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบ
หรือทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
และควรหลีกเลี่ยงการสครับในบริเวณที่เป็นสิว
เพราะอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบ
แต่ทางที่ดีรอสิวหายแล้วค่อยสครับดีกว่าเนอะ
พยายามหลีกเลี่ยงสครับที่มีกรดธรรมชาติสูงๆ
เช่น กรด AHA และ BHA
เพราะอาจจะทำให้ผิวเกิดการอักเสบ
หรือทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
และควรหลีกเลี่ยงการสครับในบริเวณที่เป็นสิว
เพราะอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบ
แต่ทางที่ดีรอสิวหายแล้วค่อยสครับดีกว่าเนอะ
การสครับผิวใสให้ถูกวิธีต้องทำตามนี้นะ!!
● สครับผิวด้วยความนุ่มนวล
และไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป
สครับหน้าเพียง 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์
ไม่งั้นริ้วรอยถามหาแน่
ส่วนการสครับผิวกายแค่ 2 ครั้งต่อเดือน
ก็เพียงพอแล้วค่ะ
และไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป
สครับหน้าเพียง 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์
ไม่งั้นริ้วรอยถามหาแน่
ส่วนการสครับผิวกายแค่ 2 ครั้งต่อเดือน
ก็เพียงพอแล้วค่ะ
● สครับขัดหน้ากับขัดตัวควรแยกกัน
จริงๆ ถ้าจะเอาสครับขัดหน้ามาขัดตัวก็พอหยวนๆ นะ
แต่ถ้าเอาสครับขัดตัวมาขัดหน้านี่ไม่ควรอย่างยิ่ง
เพราะส่วนผสมอาจจะเข้มข้นกว่า
หรือมีความหยาบมากกว่า
หน้าพังได้ง่ายเลยนะจ๊ะสาวๆ
จริงๆ ถ้าจะเอาสครับขัดหน้ามาขัดตัวก็พอหยวนๆ นะ
แต่ถ้าเอาสครับขัดตัวมาขัดหน้านี่ไม่ควรอย่างยิ่ง
เพราะส่วนผสมอาจจะเข้มข้นกว่า
หรือมีความหยาบมากกว่า
หน้าพังได้ง่ายเลยนะจ๊ะสาวๆ
● จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเทสต์
ไม่ว่าจะเป็นสครับขัดหน้าหรือขัดตัว
ควรที่จะมีการทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อน
โดยนำมาทดลองขัดที่หลังมือ
ถ้าไม่แพ้ ไม่แสบผิว ก็โอเค ใช้ได้เลย
ไม่ว่าจะเป็นสครับขัดหน้าหรือขัดตัว
ควรที่จะมีการทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อน
โดยนำมาทดลองขัดที่หลังมือ
ถ้าไม่แพ้ ไม่แสบผิว ก็โอเค ใช้ได้เลย
● ในขณะกำลังสครับผิวหน้า ควรขัดเบาๆ
โดยใช้มือขัดในลักษณะถูเป็นวงกลมเล็กๆ
ไล่ให้ทั่วใบหน้า โดยเน้นที่บริเวณหน้าผาก
จมูก และคางเป็นพิเศษ เนื่องจากในบริเวณดังกล่าว
มักจะเกิดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งทำให้เกิดสิวขึ้น
โดยใช้มือขัดในลักษณะถูเป็นวงกลมเล็กๆ
ไล่ให้ทั่วใบหน้า โดยเน้นที่บริเวณหน้าผาก
จมูก และคางเป็นพิเศษ เนื่องจากในบริเวณดังกล่าว
มักจะเกิดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งทำให้เกิดสิวขึ้น
● ไม่ควรสครับผิวหน้านานจนเกินไป
ควรใช้เวลาในการขัดประมาณ 10-15 นาที
หรือน้อยกว่านั้นก็เพียงพอแล้ว
ควรใช้เวลาในการขัดประมาณ 10-15 นาที
หรือน้อยกว่านั้นก็เพียงพอแล้ว
● ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการสครับผิวมากที่สุด
คือ เวลากลางคืน เพราะหลังจากที่เรา
ทำการสครับผิวเสร็จแล้ว ในขณะที่นอนหลับ
เซลล์ผิวของเราจะได้ทำการซ่อมแซม
ฟื้นฟู จากการสูญเสียที่เกิดขึ้นในขณะที่ทำการสครับ
คือ เวลากลางคืน เพราะหลังจากที่เรา
ทำการสครับผิวเสร็จแล้ว ในขณะที่นอนหลับ
เซลล์ผิวของเราจะได้ทำการซ่อมแซม
ฟื้นฟู จากการสูญเสียที่เกิดขึ้นในขณะที่ทำการสครับ
● หลังจากสครับผิวหน้าและกายเสร็จแล้ว
ควรบำรุงผิวด้วยครีม หรือโลชั่น
ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์
เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวของเรา
ควรบำรุงผิวด้วยครีม หรือโลชั่น
ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์
เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวของเรา
● ควรหลีกเลี่ยงการสครับผิวหากจำเป็นต้องไป
ในสถานที่ที่มีแสงแดดจัด เช่น ทะเล
ไม่ควรสครับผิวอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
ก่อนไปในบริเวณที่มีแสงแดดจัดๆ
เพราะการสครับจะทำให้ผิวเราบางลง
ผิวจึงมีความไวต่อแสงแดดมากขึ้นตามไปด้วย
ในสถานที่ที่มีแสงแดดจัด เช่น ทะเล
ไม่ควรสครับผิวอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
ก่อนไปในบริเวณที่มีแสงแดดจัดๆ
เพราะการสครับจะทำให้ผิวเราบางลง
ผิวจึงมีความไวต่อแสงแดดมากขึ้นตามไปด้วย
● แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
ก็จำเป็นต้องทาครีมกันแดด
ที่มีค่า SPF มากกว่า 15 ขึ้นไป
เมื่อจำเป็นที่จะต้องออกไปข้างนอกบ้าน
ก็จำเป็นต้องทาครีมกันแดด
ที่มีค่า SPF มากกว่า 15 ขึ้นไป
เมื่อจำเป็นที่จะต้องออกไปข้างนอกบ้าน
● ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์สครับที่มีส่วนผสมของ
กรดอัลฟา ไฮดรอกซี (Alpha hydroxyl acids)
ที่มากจนเกินไป เพราะถึงแม้ว่ากรดดังกล่าว
จะมีฤทธิ์ในการช่วยผลัดเซลล์ผิว
แต่หากใช้ในปริมาณมากจนเกินไป
จะเกิดการกระตุ้นให้ผิวหนังผลัดเซลล์อยู่ตลอดเวลา
ผิวจึงถูกทำลายมากกว่าที่ควรจะเป็น
กรดอัลฟา ไฮดรอกซี (Alpha hydroxyl acids)
ที่มากจนเกินไป เพราะถึงแม้ว่ากรดดังกล่าว
จะมีฤทธิ์ในการช่วยผลัดเซลล์ผิว
แต่หากใช้ในปริมาณมากจนเกินไป
จะเกิดการกระตุ้นให้ผิวหนังผลัดเซลล์อยู่ตลอดเวลา
ผิวจึงถูกทำลายมากกว่าที่ควรจะเป็น
เป็นยังไงจ๊ะ กับเคล็ดลับการสครับผิวให้สวยใส
ราวกับสาววัยละอ่อน ทำตามได้ไม่ยากใช่มั้ยล่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น