วิธีคลายเครียด เปิด 40 เคล็ดลับสุดเด็ดเพื่อความผ่อนคลาย แค่ 5 นาที คุณก็แฮปปี้แล้ว
การทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานทำให้เกิดความเครียดสะสมซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ แถมยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอีกด้วย ดังนั้นจึงควรแบ่งเวลาเพื่อพักผ่อนคลายสมองและร่างกายบ้างดีไหมคับ ซึ่งขอบอกเลยว่าวิธีการผ่อนคลายเหล่านี้ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ไปดูกันเลยว่ามีวิธีการผ่อนคลายแบบไหนบ้าง
ผ่อนคลายด้วยปลายลิ้น
1. จิบชาเขียว
หากรู้สึกโมโหหรือโกรธใครอยู่ ลองจิบชาเขียวดูสิ เพราะชาเขียวนั้นมีสารแอลทานีน ซึ่งเป็นสารช่วยระงับอารมณ์โกรธ เหมาะกับการจิบเพื่อผ่อนคลายเป็นที่สุด
2. หม่ำช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตแค่เพียงชิ้นเล็ก ๆ ก็สามารถช่วยในการสงบสติอารมณ์ได้ โดยเฉพาะดาร์กช็อกโกแลตนั้นสามารถช่วยรักษาระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อร่างกายและช่วยรักษาสมดุลของระบบการเผาผลาญ
3. ลิ้มรสชาติของน้ำผึ้ง
สิ่งที่ช่วยในการลดความเครียดได้ดีคือของหวาน ซึ่งน้ำผึ้งเพียงหนึ่งช้อนสามารถลดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลได้ นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีประโยชน์ในการช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้้นและลดอาการอักเสบได้อีกด้วย
4. รับประทานมะม่วงสุก
มะม่วงสุกหวานฉ่ำคือแหล่งที่อุดมไปด้วยสารลินาโลออลที่ช่วยลดระดับความเครียดได้ แค่เพียงลองใช้เวลาแค่ 5 นาทีในการลิ้มลองรสชาติของมะม่วงสุกก็จะให้รู้สึกผ่อนคลายลง
5. เคี้ยวหมากฝรั่ง
การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นวิธีเอาชนะความเครียดได้อย่างรวดเร็วและน่าประหลาด เชื่อไหมว่าแค่เคี้ยวหมากฝรั่งไม่กี่นาทีก็สามารถลดความวิตกกังวลและลดระดับคอร์ติซอลได้ด้วย
6. กินขนมกรุบกรอบ
มีการศึกษาพบว่าเมื่อคนเราเครียดมักจะรู้สึกอย่างกินขนมกรุบกรอบที่มีรสเค็มมากกว่าปกติ เพราะฉะนั้นจะมีอะไรจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายไปได้มากกว่าการนั่งกินขนมกรุบกรอบอีกล่ะ อ๊ะ ! แต่ต้องเลือกทานหน่อยนะ แล้วทานให้น้อย ๆ ด้วย สักชิ้นสองชิ้นก็พอ เดี๋ยวความอ้วนจะถามหา พาลให้เครียดกว่าเดิมซะงั้น
สร้างความสงบจากภายใน
7. ทำสมาธิ
หากรู้สึกเครียดและต้องการผ่อนคลาย การทำสมาธิก็เป็นวิธีการผ่อนคลายที่ดีวิธีหนึ่ง ซึ่งช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้ ลองหลบไปที่เงียบ ๆ แล้วเริ่มทำสมาธิจดจ่อกับลมหายใจสิคะ มันจะทำให้ความรู้สึกวิตกกังวลหายไปหมดเลยล่ะ
8. งีบสักหน่อยก็ดีนะ
การเอนหัวลงบนหมอนแล้วงีบหลับสักครู่เป็นการผ่อนคลายที่ดีอย่างหนึ่ง แค่เพียงมีหมอนซักใบ แล้วพิงหัวลงบนหมอน นึกซะว่าหมอนใบนั้นเป็นฟองน้ำที่จะซึมซับความกังวลออกไป แค่นี้ก็จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้แน่นอน อ้อ ! แต่ก็ไม่ควรงีบหลับเป็นเวลานานจนเกินไปนะคะ
9. กำหนดลมหายใจ
วิธีที่ง่ายในการผ่อนคลายวิธีหนึ่งก็คือการกำหนดลมหายใจ โดยเพ่งจิตไปที่ลมหายใจ แล้วหายใจเข้าออกช้า ๆ การหายใจลึก ๆ ช่วยทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจลดลง การกำหนดลมหายใจนั้นเป็นการบรรเทาความวิตกกังวล ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับการรักษาด้วยการฝังเข็ม และช่วยสร้างสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจได้ด้วย
10. ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
เมื่อเรารู้สึกวิตกกังวล กล้ามเนื้อบางส่วนก็จะหดเกร็งและทำให้รู้สึกตึงเครียด แต่การผ่อนคลายกล้ามเนื้อจะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนที่หดเกร็งนั้นผ่อนคลายลง จึงช่วยลดความเครียดได้
11. นับถอยหลัง
การนับถอยหลังไม่ใช่การทดสอบ IQ แต่เป็นวิธีผ่อนคลายวิธีหนึ่ง เมื่อเรารู้สึกกังวลกับอะไรบางอย่าง แค่เพียงนับ 1 ถึง 10 แล้วถอยหลังกลับมาช้า ๆ จะช่วยทำให้ใจเย็นลงได้
12. ปลดปล่อยจินตนาการด้วยการฝันกลางวัน
ปลดปล่อยจินตนาการของคุณไปกับการฝันกลางวัน จินตนาการถึงสิ่งที่ให้คุณมีความสุข อย่าไปสนใจว่ามันจะเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน เพราะเรื่องเพ้อฝันเหล่านี้นี่ล่ะที่จะช่วยให้ผ่อนคลายได้ดีเชียวล่ะ
13. แค่เพียงหลับตาลง
ลองหยุดพักจากความวุ่นวายในที่ทำงานหรืองานบ้านอันยุ่งเหยิงเป็นช่วงสั้น ๆ ด้วยการหลับตาสิ แค่เพียงปิดเปลือกตาลงมันก็ทำให้เราใจเย็นลงได้แล้ว
สัมผัสเพื่อผ่อนคลาย
14. นวดมือให้ตัวเอง
แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการนวด แต่การนวดมือด้วยตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องยาก สามารถลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อช่วงไหล่ คอและขมับได้ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันนวดราคาแพงหรอกค่ะ เพียงแค่ใช้โลชั่นกลิ่นที่ชอบก็พอแล้ว แถมกลิ่นของโลชั่นที่เราชอบยังช่วยให้เราผ่อนคลายได้อีกด้วย
15. ทดลองกดจุดด้วยตัวเอง
การกดจุดสามารถช่วยลดความกดดันที่เกิดจากความเครียดได้ เพราะการกดจุดเป็นการรักษาด้วยการสัมผัส ซึ่งเป็นการปลดปล่อยความเครียดชนิดหนึ่ง เพียงใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กดและนวดเบา ๆ ที่ ตรงระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้อีกข้าง หรือจะใช้น้ำมันหอมลาเวนเดอร์ทาเบา ๆ เพื่อช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้น
16. ใช้เท้าคลึงไปบนลูกกอล์ฟ
วิธีการนี้เป็นวิธีการนวดเท้าด้วยตัวเองที่ง่ายและทำได้เองที่บ้าน แค่เพียงนำลูกกอล์ฟมาใส่ในถาดแล้ววางเท้าบนลูกกอล์ฟ จากนั้นก็คลึงเท้าไปกับลูกกอล์ฟไปเรื่อย ๆ จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายไม่ต่างจากการนวดเท้าเลยค่ะ
17. บีบลูกบอลคลายเครียด
ลูกบอลคลายเครียดเป็นอุปกรณ์ลดความเครียดที่พกพาได้สะดวก หากคุณรู้สึกเครียดหรือโกรธอะไรก็ตาม ให้หยิบลูกบอลคลายเครียดออกมาบีบไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ความเครียดของคุณบรรเทาลงได้
18. หยดน้ำเย็นลงไปบนข้อมือ
น้ำเย็นสามารถช่วยให้อารมณ์ของเราสงบลงได้ โดยการผสมน้ำหอมลงไปในน้ำเย็น แล้วหยดลงบนข้อมือและเอาน้ำเย็นแต่ที่ใบหู จะทำให้เส้นเลือดใหญ่ใต้ผิวหนังนั้นเกิดการระบายความร้อนและทำให้เรารู้สึกเย็นและสงบมากขึ้น
19. แปรงผม
เชื่อว่ามีหลายคนที่ชอบจะยีหัวตัวเองเวลาที่คิดอะไรไม่ออก จนสุดท้ายผมก็ยุ่งจนเป็นรังนก งั้นลองเปลี่ยนเป็นลองหยิบแปรงหวีผมมาสิ แล้วค่อย ๆ แปรงผมช้า ๆ ก็ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้ดีเลยล่ะ หรือจะเป็นการล้างจานกับการถักนิดติ้งพวกนี้ก็สามารถช่วยได้เหมือนกันนะ
บำบัดใจด้วยบรรยากาศรอบตัว
20. อยู่คนเดียว
การอยู่คนเดียวจะช่วยให้เราสามารถที่จะรวบรวมความคิดและจัดการกับความคิดยุ่ง ๆ ได้ล่ะ
21. สร้างพื้นที่ที่สงบให้กับตัวเอง
การเข้าไปนั่งเงียบ ๆ อยู่ในห้องน้ำ หรือหลบไปอยู่ซอกมุมเล็ก ๆ ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำเมื่อรู้สึกตึงเครียด แต่ที่คุณควรทำก็คือลองสร้างพื้นที่เล็ก ๆ ของตัวเอง เช่น ทิ้งตัวไปบนเก้าอี้นุ่ม ๆ แล้วจุดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นเบา ๆ จากนั้นก็ใช้เวลาอยู่กับมันสักครู่ก็จะสามารถลดความตึงเครียดได้
22. มองหาดวงอาทิตย์
แสงสว่างเป็นยารักษาความรู้สึกหดหู่ใจได้ดี แต่ควรจะเป็นแสงจากดวงอาทิตย์ด้วยนะ เพราะแสงอาทิตย์นั้นให้ความรู้สึกอบอุุ่นแก่เรา หากเรารู้สึกหดหู่ ให้ออกไปสัมผัสแสงแดดเบา ๆ ดูบ้าง อ๊ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ไปยืนกลางแดดนะจ๊ะ เพราะจะยิ่งทำให้รู้สึกร้อนและเครียดไปกว่าเดิม แถมยังเป็นอันตรายต่อผิวหนังอีกด้วย
23. เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
เมื่อรู้สึกว่าทุกอย่างตรงหน้ามันช่างวุ่นวายไปเสียหมด ลองหยุดพักสัก 5 นาที แล้วเหม่อมองออกไปที่นอกหน้าต่าง การดูธรรมชาติหรือต้นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ จะสามารถช่วยให้ผ่อนคลายได้มากกว่าการดูทีวีอีกนะ
24. จัดข้าวของ
โต๊ะทำงานที่ข้าวของไม่เป็นระเบียบก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดความเครียดได้ ใช้เวลาพักสั้นเพียงสั้น ๆ ลงมือจัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ และโละข้าวของที่ไม่ใช่แล้วทิ้งไปซะ ความเป็นระเบียบจะช่วยให้หายเครียดได้
ออกกำลังกายให้ตื่นตัว
25. เล่นโยคะ
การเล่นโยคะสามารถช่วยผ่อนคลายได้ เพราะบางท่าของโยคะนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการลดความตึงเครียดและผ่อนคลายร่างกาย โดยเฉพาะท่ายืนด้วยไหล่ (Vipariti Kirani) ซึ่งเป็นท่าโยคะที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อขาและเท้าได้ โดยท่านี้จะต้องยกขาขึ้นไปบนอากาศ เหมาะสำหรับคนที่ต้องยืนหรือเดินทั้งวันเป็นอย่างยิ่ง
26. ยืดเส้นยืดสาย
การยืดเส้นยืดสายจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อนั้นผ่อนคลายลง และความเครียดก็จะลดตามลงไปด้วย เมื่อต้องนั่งทำงานนาน ๆ ลองลุกขึ้นยืนแล้วยืดเส้นยืดสายดูสิ รับรองว่าหายเครียดแน่นอน
27. วิ่งไปรอบ ๆ
คนเราไม่สามารถวิ่งหนีไปจากความเครียดได้ แต่การวิ่งไปรอบ ๆ ก็สามารถช่วยให้ผ่อนคลายได้ โดยเพียงแค่ใช้เวลาไม่กี่นาทีวิ่งไปรอบ ๆ ออฟฟิศหรือบริเวณบ้าน เมื่อสารเอ็นดอร์ฟินถูกหลั่งออกมาก็จะทำให้ความเครียดถูกขจัดไปได้
28. ออกไปเดินเล่น
เมื่อเราจมปลักอยู่กับความคิดและความเครียดต่าง ๆ การออกไปเดินเล่นก็สามารถช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้นได้ เพราะการใช้เวลาอยู่คนเดียวจะสามารถทำให้เราคิดอะไรต่าง ๆ ออกได้ แถมยังเป็นการออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย
บันเทิงเริงใจด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์
29. เขียนไดอารี่
เมื่อเรารู้สึกเครียดหรืออึดอัด แต่ไม่สามารถปรึกษาใครได้ การเขียนไดอารี่เป็นการระบายอย่างหนึ่ง ซึ่งการเขียนไดอารี่นั้น จะทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้นเพราะเราได้ระบายความรู้สึกทุกอย่างลงไป ลองหาสมุดไดอารี่น่ารัก ๆ สักเล่มเอาไว้เขียนเพื่อระบายดูนะ รับรองว่าจะหายเครียดได้แน่นอนจ้า
30. ฟังเพลงโปรด
เพลงโปรดของเราไม่ว่าจะฟังเมื่อไรเราก็จะรู้สึกอารมณ์ดีเมื่อนั้น เพราะการฟังเพลงเป็นการช่วยหยุดความรู้สึกหรืออารมณ์แย่ ๆ และถ้าหากอยากผ่อนคลายมากกว่านี้ก็ลองฮัมเบา ๆ ตามเพลงไปด้วย รับรองว่าหายเครียดเป็นนปลิดทิ้งแน่นอน อ้อ ! แล้วก็ถ้าหากอยากนอนหลับสบายล่ะก็ควรจะหาเพลงคลาสสิกมาฟัง เพราะเพลงคลาสสิกจะช่วยทำให้หลับได้ดีขึ้นด้วยล่ะ
31. เต้นซะ !
มีการวิจัยหนึ่งเปิดเผยว่า การเต้นสามารถลดความกังวลได้ ไม่จำเป็นต้องเต้นจริงจังอะไร แค่เพียงโยกย้ายไปตามจังหวะเพลงในแบบที่คุณชอบก็จะชอบให้ผ่อนคลายลงได้เยอะเชียวล่ะ
32. เล่นปริศนาอักษรไขว้
การเล่นปริศนาอักษรไขว้นั้นเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิอย่างมาก ซึ่งจะทำให้เราลืมนึกถึงเรื่องที่เครียด ๆ ไปได้ แต่ถ้าไม่ชอบเกมปริศนาอักษรไขว้ก็ลองหาเกมพัฒนาสมองอื่น ๆ อย่างเช่น ซุโดกุ มาเล่นได้
บำบัดความเครียดด้วยกลิ่นหอม
33. ดมกลิ่นดอกไม้
กลิ่นของดอกไม้จะช่วยทำให้อารมณ์เปลี่ยนแปลงได้ คงไม่มีใครจะโกรธได้หากได้กลิ่นของดอกกุหลาบอยู่เต็มปอด หาแจกันสวย ๆ ใส่ดอกไม้ที่คุณชอบแล้วเอาไปวางไว้ใกล้ ๆ บริเวณที่นั่งทำงานหรือในห้องนั่งเล่น มันจะช่วยทำให้ความวิตกกังวลลดลง
34. อโรมาเทอราพี
จมูกของเราเชื่อมต่อกับสมองในส่วนควบคุมความรู้สึกโดยตรง ดังนั้นหากรู้สึกเครียดก็ลองหยดน้ำมันลาเวนเดอร์, กลิ่นชา หรือกลิ่นอื่น ๆ ลงบนฝ่ามือหรือผ้าเช็ดหน้าแล้วดมกลิ่น กลิ่นเหล่านั้นจะช่วยในผ่อนคลายความเครียดได้
35. สูดกลิ่นส้ม
กลิ่นของส้มช่วยในการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนอะดรีนาลีน ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ดังนั้นลองหาน้ำหอมปรับอากาศกลิ่นส้มมาวางไว้ใกล้ ๆ บริเวณโต๊ะทำงานแล้วดมกลิ่นมันเวลาที่รู้สึกเครียด ๆ ดูซะ รับรองว่าช่วยให้หายเครียดได้เยอะเลยล่ะ
36. กลิ่นกาแฟก็ช่วยได้นะ
รู้หรือเปล่ากลิ่นของกาแฟสามารถช่วยลดระดับของฮอร์โมนความเครียดได้ด้วยล่ะ แค่เพียงดมกลิ่นกาแฟร้อน ๆ ก็สามารถช่วยได้ แต่ไม่ต้องจิบล่ะ เพราะการดื่มกาแฟนั้นจะยิ่งทำให้เครียดไปยิ่งกว่าเดิม
สร้างมิตรภาพดี ๆ
37. เล่นกับสัตว์เลี้ยง
มีคำกล่าวที่ว่า สัตว์เลี้ยงคือเพื่อนที่ดีที่สุดของคน การเล่นกับสัตว์เลี้ยงจึงเป็นวิธีการผ่อนคลายที่ดีหลังจากเคร่งเครียดจากการทำงานมาทั้งวัน และการเลี้ยงสัตว์ยังสามารถสร้างความนับถือตัวเองให้เพิ่มขึ้นแถมยังช่วยเยียวยาความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธจากสังคมอีกด้วย
38. หัวเราะ
แม้จะเป็นวิธีที่ดูไร้สาระแต่การหัวเราะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งเมื่อเราประสบพบกับความเครียด ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์ยืนยันมาแล้ว ลองหาหนังสือการ์ตูนตลก ๆ วางไว้ที่โต๊ะทำงาน หรือเซฟคลิปตลก ๆ ในยูทูปเอาไว้ดูเวลาที่เครียดสิ แต่ก็ควรหัวเราะแต่เพียงพอดีนะจ๊ะ เพื่อนร่วมงานจะได้ไม่ตกใจ
39. เม้าท์กับเพื่อน
การพูดคุยกับเพื่อนฝูงสามารถทำให้ความรู้สึกหงุดหงิดและความเครียดลดลงได้ อย่างน้อยการได้พูดออกไปก็จะทำให้สิ่งที่ค้างคาอยู่ภายในใจและความคิดบางอย่างคลี่คลายลงได้ คราวหน้าถ้ารู้สึกเครียด ๆ ก็ลองคุยกับเพื่อนร่วมงาน หรือโทรหาใครสักคนแล้วระบายให้พวกเขาฟังดูสิ
40. เริ่มวางแผนการพักร้อน
เมื่อรู้สึกเครียดกับงาน ลองหลับตาลงแล้วนึกถึงวันพักร้อนที่กำลังจะมาถึง หรือหยุดทำงานสักครู่แล้วเข้าเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับแผนการพักร้อน เมื่อเรารู้สึกเพลิดเพลินไปการหาข้อมูลสำหรับการพักร้อนเราก็จะลืมความเครียดทั้งหมดไปเลยล่ะ
ความเครียดเป็นสิ่งที่เราหนีไม่พ้น แต่ถ้าหากเราเรียนรู้ที่จะจัดการกับมันก่อนที่ความเครียดจะส่งผลต่อสภาพร่างกายได้ ก็จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีสุขภาพที่ดี อย่าลืมนำวิธีคลายเครียดเหล่านี้ไปลองใช้กันนะคับ
Cr.http://health.kapook.com/view94872.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น