วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558

เด็ดมาก! 7 สูตรรักษาฝ้าด้วย วิธีธรรมชาติ ที่คุณเองก็ทำได้


http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14294995771429499672l.jpg

ช่วงนี้แดดเปรี้ยงมาก จนแทบจะลมจับทุกทีเมื่อออกไปเดินกลางแจ้ง และแดดจัดแบบนี้ก็ส่งผลเสียกับผิวไม่น้อยิ โดยเฉพาะเมื่อเม็ดสีผิวหรือเม็ดสีเมลานินทำงานมากเกินไป เนื่องมาจากเจ้าเม็ดสีเมลานินนั้นมีหน้าที่กรองรังสียูวี เมื่อผิวได้รับแสงแดดมากขึ้น เมลานินก็จะถูกผลิตออกมามากขึ้นตามไปด้วย แล้วก็อาจมีข้ออบกพร่องในการกรองรังสียูวี ทำให้รังสีที่มีผลต่อการเกิดฝ้าคือ “รังสี UVA” เข้าไปสามารถทำลายผิวได้ลึก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมื่อตากแดดนานๆ แล้วผิวถึงคล้ำเสีย และเกิดฝ้าได้ รวมไปถึงฮอร์โมนและกรรมพันธุ์ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เช่นกัน

วิธีการรักษาฝ้า ด้วยธรรมชาติ

1. สูตรว่านหางจระเข้



http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14294995771429499677l.jpg

ว่านหางจระเข้ ถือเป็นสมุนไพรใช้รักษาแผล ยอดนิยมมากๆ วิธีหนึ่ง โดยวิธีรักษาฝ้าแบบธรรมชาติ ให้คุณใช้ว่านหางจระเข้ 1 ใบใหญ่ (เลือกใบล่างๆ แบบที่แก่แล้ว) นำไปแช่น้ำประมาณ 10 นาที จากนั้นก็ปอกเปลือกออกและล้างให้สะอาด นำไปปั่นหรือบดก็ได้ตามถนัด แล้วจึงนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที โดยสูตรนี้หากทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้ฝ้าหายได้ไวยิ่งขึ้น

2. สูตรหัวไชเท้า

http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14294995771429499681l.jpg

หัวไชเท้า สามารถนำมาทำเป็นสูตรรักษาฝ้าได้ โดยคุณสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่นำหัวไชเท้าบดหยาบๆ มาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที (แล้วแต่สภาพหน้าของแต่ละคนว่ารับได้แค่ไหน ส่วนคนที่มีผิวแพ้ง่ายไม่ควรใช้สูตรนี้) แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น

ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือวันเว้นวัน ก็จะช่วยลดฝ้าทำให้ฝ้าดูจางลงได้มากเลยทีเดียว และนอกจากจะช่วยลดฝ้าได้แล้วหัวไชเท้ายังมีสรรพคุณช่วยลดริ้วรอยต่างๆ และทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย แต่หลังจากล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นแล้ว ก็ให้กระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์หรือน้ำเย็นเพื่อป้องกันไม่ให้รูขุมขนกว้างด้วยล่ะ

3. สูตรมะขามเปียก



http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14294995771429499684l.jpg

อีกหนึ่งวิธีรักษาฝ้าด้วยสมุนไพร ให้คุณนำเนื้อมะขามเปียกมาพอกหรือทาบางๆ บริเวณผิวที่เป็นรอยฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างออก วิธีนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าทำให้รอยฝ้าดูจางลงและยังช่วยลดรอยด่างดำได้ด้วย แต่ถ้าที่บ้านคุณไม่มีมะขามเปียก ก็อาจเลือกใช้เป็นน้ำมะนาวหรือน้ำมะกรูดแทนก็ได้

4. สูตรใบบัวบก

http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14294995771429499688l.jpg

สมุนไพรรักษาฝ้าอีกสูตร ซึ่งจากการวิจัยพบว่าใบบัวบกนั้นมีสรรพคุณในการช่วยรักษาอาการของโรคผิวหนังได้ โดยเฉพาะฝ้า กระ และสิว วิธีใช้ก็ไม่ยาก เพียงแค่นำมาปั่นแล้วใช้น้ำใบบัวบกมาเช็ดหน้าแทนการใช้โทนเนอร์ก่อนนอนทุกวัน เพียงเท่านี้รอยฝ้าต่างๆ ก็จะค่อยๆ จางลง เหลือไว้แต่เพียงหน้าอันขาวเนียนสดใส

5. สูตรไข่ขาว



http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14294995771429499692l.jpg

อาจจะมีกลิ่นคาวสักหน่อย เพียงแค่นำไข่ขาวบริเวณรอบๆ ไข่แดง (เฉพาะไข่ขาว) มาทาบางๆ ให้ทั่วบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ไข่ขาวจะช่วยดูดซับรอยฝ้าและสิ่งสกปรกให้หมดไปจากใบหน้าของคุณได้

6.สูตรน้ำส้มสายชูจากผลแอปเปิ้ล



http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14294995771429499701l.jpg

ใครจะรู้ว่าน้ำส้มสายชูจากผลแอปเปิ้ลจะมีประโยชน์ในด้านการช่วยดูแลผิวพรรณได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าเนื่องจากในน้ำส้มสายชูนั้นมีฤทธิ์กรดจึงช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเนียนนุ่มขึ้นได้เพียงแค่คุณนำมันมาผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย แล้วใช้สำลีชุบและเช็ดให้ทั่วใบหน้า รอจนแห้วแล้วจึงล้างออก

7. บำรุงจากภายในสู่ภายนอก



http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14294995771429499696l.jpg

นอกจากการรักษาด้วยวิธีต่างๆ ในระหว่างการรักษาเราสามารถดูแลตัวเองจากภายในได้โดยการรับประทานทานอาหารที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ที่เป็นตัวช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฝ้าขยายตัวใหญ่ขึ้นนั่นเอง

อันที่จริงแล้ว ก่อนจะไปถึงการรักษา การป้องกันเป็นเรื่องสำคัญที่สุด คุณควรเริ่มต้นจากการหลีกเลี่ยงแสงแดด ถ้าหากต้องเผชิญแสงแดดก็ควรแต่งกายแบบไม่เผยผิวพร้อมกับทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากรังสียูสี โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป และต้องเป็นแบบ PA+++ ด้วย ถึงจะช่วยปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าต้องอยู่ภายใต้แสงแดดตลอดทั้งวัน คุณอาจเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงมากกว่านี้ แต่ให้หมั่นทาครีมกันแดดบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าครีมกันแดดยังมีประสิทธิภาพดีพอต่อการป้องกันแสงแดด

นอกจากนี้คุณควรสังเกตตัวเองด้วยว่าเรารับประทานยาอะไรที่เสี่ยงต่อการเกิดฝ้าหรือเปล่าเช่นยาคุมกำเนิดใช้เครื่องสำอางอะไรแล้วแพ้จนเป็นรอยคล้ายฝ้าหรือไม่

Cr : http://www.emaginfo.com/?p=66293#sthash.fQa7qq5s.dpuf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น